ไทย ENG

CONTACT US
0-2026-6875

WCIA Weekly Highlight 26 June 2023

27/06/2023

WCIA Weekly บทความการลงทุนประจำสัปดาห์ระหว่างวันที่ 26 – 30 มิถุนายน 2566
ถ้อยแถลงของประธานเฟดยืนยันจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ BoE ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.0%
สร้างเซอร์ไพรส์ตลาด

EXECUTIVE SUMMARY

  • ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ด้านดัชนี Dow Jones ปรับตัวลง 1.7% ดัชนี S&P500 ลดลง 1.4% และ Nasdaq ลดลง 1.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • Special Headlines: ถ้อยแถลงของประธานเฟด ยืนยันจะเดินหน้า
    ขึ้นดอกเบี้ยต่อ BoE ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.0%
    สร้างเซอร์ไพรส์ตลาด
  • มุมมอง: เรามีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม Defensive สหรัฐในระยะกลาง ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากช่วงเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังจากนี้ และเรามองว่าหุ้น Asia ex. Japan อย่าง ตลาดหุ้นจีน ไต้หวัน อาเซียน
    รวมถึงเวียดนามมี Valuation ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ DM โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ราคาสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว และคาดว่าทางการจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรฐกิจในประเทศเร่งด่วนในครึ่งปีหลังนี้

WEEKLY TOTAL ASSET CLASS RETURN

ที่มา: Koyfin.com data as of 25 June 2023, *Annualized returns

SPECIAL HEADLINE: ถ้อยแถลงของประธานเฟดยืนยันจะเดินหน้า
ขึ้นดอกเบี้ยต่อ

  • สัปดาห์ที่ผ่านมานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสและวุฒิสภา โดยนายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงใช้นโยบายเข้มงวดจนกว่าจะมีความคืบหน้าของการชะลอตัวของเงินเฟ้อมากขึ้น และเฟดจะพยายามคุมเงินเฟ้อให้ลงมาในระดับเป้าหมายที่ 2% ซึ่งปัจจุบันอยู่ระดับที่ 4% และยังคงหนุนให้ระดับการจ้างงานยังอยู่สูงต่อไป ขณะที่อีกด้านหนึ่งเศรษฐกิจสหรัฐก็มีปัจจัยกดดันจากความกังวลในภาคธนาคารและตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว
  • ทั้งนี้หลังจากถ้อยแถลงเฟดเสร็จสิ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งอ่อนไหวต่อดอกเบี้ยเฟดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปียังคงทรงตัว ทำให้ส่วนต่าง Inverted Yield curve เพิ่มมากขึ้น สะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐจะมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยมากยิ่งขึ้นและเร็วขึ้น ที่นักลงทุนหมดความคาดหวังว่าเฟดจะกลับลำปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้

ที่มา: https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-06-24/powell-wins-over-bond-traders-dialing-back-bets-on-deep-downturn?srnd=fixed-income

BoE ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.0% สร้างเซอร์ไพรส์ตลาด

  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 7-2 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00% สูงกว่าตลาดคาดว่าจะขึ้น 0.25% และแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี เนื่องจากเงินเฟ้อในอังกฤษยังอยู่ระดับสูง จากราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น รวมถึงอัตราค่าจ้างแรงงานที่ยังพุ่งสูงขึ้น ซึ่งหนุนเงินเฟ้อในประเทศให้ยังคงสูง
  • โดยก่อนหน้านี้เงินเฟ้ออังกฤษเดือน พ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.7% สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง และยังคงสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของ BoE อยู่ที่ระดับ 2% อยู่มาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ BoE ระบุว่า จำเป็นต้องใช้นโยบายเข้มงวดเพื่อกดเงินเฟ้อลงสู่กรอบเป้าหมาย ขณะเดียนกันก็พยายามดำเนินการที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจถดถอยให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของอังกฤษปีนี้จะสูงสุดที่ระดับ 5% ซึ่งปัจจุบันได้แตะระดับดังกล่าวแล้ว ทำให้นักลงทุนบางส่วนเพิ่มการคาดการณ์ว่า BoE จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปแตะที่ระดับ 6% ในสิ้นปีนี้

ที่มา: https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-06-23/traders-bet-boe-will-raise-rate-to-6-25-highest-since-1998-lj8i7tm4

WEEKLY RECAP

US

  • ประธานเฟดซานฟรานฯ หนุนขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งปีนี้ โดยนางแมรี ดาลี กล่าวว่า การที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ถือเป็นการคาดการณ์ที่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ดีนางแมรีได้แนะนำว่า เฟดควรดำเนินการให้ช้าลงและระมัดระวังมากกว่าแต่ก่อน และตนยังไม่ได้ตัดสินใจต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ค. เนื่องจากต้องรอข้อมูลต่างๆ
  • สหรัฐเผยยอดสร้างบ้านใหม่ในเดือน พ.ค. สูงกว่าตลาดคาด โดยตัวเลขการสร้างบ้านเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.63 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน และสูงกว่าตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 1.39 ล้านยูนิต จากระดับ 1.24 ล้านยูนิตในเดือน เม.ย. ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.49 ล้านยูนิตในเดือน พ.ค. และสูงกว่ากว่าตลาดคาดที่ระดับ 1.42 ล้านยูนิต
  • สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสอดคล้องกับตลาดคาด โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิกาว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 264,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 64 ด้านจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานคงค้างเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 1.76 ล้านราย

EUROPE

  • ยอดค้าปลีกอังกฤษเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นสวนทางตลาดคาด โดยยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.3% จากเดือน เม.ย. ขณะที่ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลดลง 0.2% ในเดือน พ.ค. อย่างไรก็ดีอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษยังคงเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน โดยเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นที่ 8.7% ในเดือน พ.ค. สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง
  • เงินเฟ้ออังกฤษในเดือน พ.ค .สูงกว่าคาดการณ์ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ของอังกฤษเพิ่มขึ้นแตะ 8.7%YoY สวนทางกับตลาดคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลง ซึ่งในวันนี้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะมีการประชุมนโยบายการเงิน โดยตลาดคาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 4.75% นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 13 ติดต่อกัน
  • สำนักงานสถิติเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเยอรมนีปรับตัว 1.0% ในเดือน พ.ค. ปีนี้ เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ต่ำกว่าตลาดคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% และปรับตัวลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ลดลงมากกว่าตลาดคาดว่าจะลดลง 0.7%

ASIA

  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ของญี่ปุ่นในเดือน พ.ค. ปรับตัวขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวลงจากระดับ 3.4% ในเดือน เม.ย. อย่างไรก็ดีตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าเป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 ทำให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า อีกไม่นาน BOJ จะเริ่มยกเลิกมาตรการการเงินผ่อนคลาย และจะส่งผลกระทบต่อกำไรของสถาบันการเงินลดลง
  • ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วันซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงดอกเบี้ยติดต่อกันเดือนที่ 5 หลังจากเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของธนาคารกลางเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี
  • กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของไต้หวัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับอุปสงค์เทคโนโลยีทั่วโล ลดลง 17.6% เมื่อเทียบรายปี แต่น้อยกว่าตลาดคาดว่าจะลดลง 20% พร้อมระบุว่า อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูง และสงครามรัสเซีย –ยูเครนอาจขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต
  • เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เผยว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่น่าเป็นห่วง และมีแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 28 ล้านคน การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดี ขณะที่ภาคการส่งออกที่หดตัวยังคงเป็นปัญหาในปี 66 ซึ่งเป็นเหมือนกันทั้งภูมิภาค ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย รวมถึงห่วงปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ต้องให้ความสำคัญ ซึ่งจะฉุดรั้งการใช้จ่ายในระยะต่อไป

COMMODITIES

  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปรับตัวลดลงปิดที่ 69.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากผลกระทบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักๆ ของโลก และอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีน รวมถึงข่าวอิหร่านและรัสเซียเพิ่มการส่งออกน้ำมัน ซึ่งส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น
  • ราคาทองคำปรับตัวลงที่ $1,920.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยระหว่างสัปดาห์ได้ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และลงมากกว่า 100 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดในช่วงต้นเดือน พ.ค. ท่ามกลางแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าเฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งธนาคารกลางอังกฤษขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 0.5% สู่ 5.0% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลต่อ sentiment ด้านลบในการถือทองคำ
  • ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องปิดตลาดที่ 35.23 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่ามากสุดในรอบ 3 เดือน จากปัจจัยการเมืองในประเทศที่ตลาดไม่เชื่อมั่นต่อนโยบายเศรษฐกิจ และการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการสร้างบ้านใหม่สูงกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ

ความเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่มา: Tradingview.com as of 26 June 2023

จัดอันดับกองทุนพักเงิน

หมายเหตุ: ข้อมูลการจัดอันดับกองทุนเป็นเพียงข้อมูลหนึ่งที่ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน

ที่มา: AspenRTD, data as of 25 June 2023

โดยรายละเอียดแผนการลงทุนและกองทุนที่แนะนำให้กับลูกค้าจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับระดับการยอมรับความเสี่ยง ผลตอบแทนคาดหวัง ข้อจำกัดในการลงทุนของแต่ละบุคคล และเรามีการคัดเลือกและวิเคราะห์กองทุนที่เหมาะกับการจัดพอร์ตการลงทุนในแต่ละบุคคล

โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ติดต่อทีมงานฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน เพื่อสอบถามรายละเอียดและคำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมกับท่าน ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 02-026-6875   หรือ อีเมลล์ investment@wealthcertified.co.th

Wealth Certified Investment Team

นาย พันเลิศ เจริญสวรรค์ : นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ ผู้วางแผนการลงทุน

นาย กรวิชญ์ สำเภาสงฆ์ : ผู้วางแผนการลงทุน

อ่านบทความย้อนหลังได้ที่

https://wealthcertified.co.th/wcia-weekly-highlight-19-june-2023/

https://wealthcertified.co.th/wealth-certified-2023-investment-outlook/

Disclaimer: ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทนายหน้าหลักทรัพย์ซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของเอกสารฉบับนี้ รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

     ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการขาดทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น

      เอกสารการลงทุนฉบับนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการแนะนำการลงทุน และอนุญาตให้ใช้เฉพาะภายในบริษัท (internal use only) เท่านั้น ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ทั่วไป กรณีที่มีการนำเอกสารนี้ไปเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไป และไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด หากเกิดความเสียหายเกิดขึ้นจากการใช้เอกสารฉบับนี้ บริษัทมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการทางด้านกฎหมายได้ทันที

You cannot copy content of this page