WCIA Weekly Highlight 25 December 2023

บทความการลงทุนประจำสัปดาห์ระหว่างวันที่ 25 – 29 ธันวาคม 2566
อัปเดทตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ รัฐบาลจีนออกร่างมาตรการควบคุมเกมออนไลน์ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยติดลบ และอัปเดทตัวเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ

Executive Summary

• ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า และมุมมองบวกที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยแบบ soft landing ด้านดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้ sentiment บวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท Micron Technology อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลงแรง หลังจากรัฐบาลจีนเผยร่างมาตรการใหม่เพื่อควบคุมการใช้จ่ายเงินในเกมออนไลน์ ส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทเกมมิ่งปรับตัวลดลงแรงกดดันตลาดโดยรวม
  
• Special Headlines:
  อัปเดทตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
  รัฐบาลจีนออกร่างมาตรการควบคุมเกมออนไลน์
  BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยติดลบ
  
• มุมมอง: เราแนะนำกระจายการลงทุนท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ย higher for longer โดยเน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่สหรัฐในกลุ่ม value และ quality growth ที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีรายได้สม่ำเสมอ อย่าง หุ้นกลุ่ม health care และ technology เป็นต้น และเรามองว่าตลาดหุ้น Asia ex. Japan อย่าง จีนและเวียดนามในช่วงนี้เป็นโอกาสน่าลงทุนสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงยาว เนื่องจาก valuation ของตลาดอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนมีการเติบโตในระดับที่สูงตามปัจจัยพื้นฐาน ด้านตลาดหุ้นไทยมองว่ามี downside risk ที่ค่อนข้างจำกัด นักลงทุนสามารถทยอยสะสมลงทุนได้ เรามองว่าเศรษฐกิจไทยจะยังเติบโตได้ในระดับดีหลังจากนี้ จากปัจจัยหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติจะมีพัฒนาการเชิงบวก

Weekly Total Asset Return

ที่มา: Koyfin.com data as of 23 Dec 2023, *Annualized returns

อัปเดทตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

• สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐเผย ดัชนี PCE เดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 2.6%YoY ต่ำกว่าคาด โดยดัชนีดังกล่าวเป็นดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป ขณะที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8%YoY ด้าน Core PCE ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 3.2%YoY ต่ำกว่าคาดที่ 3.3%YoY ซึ่งตัวเลขดังกล่าวหนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า อย่างไรก็ดีตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งและค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น ยังคงหนุนการบริโภคและมุมมองที่สหรัฐเศรษฐกิจจะเกิด soft landing มากขึ้น รวมถึงอาจทำให้เฟดยังต้องรอดูสถานการณ์ก่อนจะมั่นใจที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง
• ด้านตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2023 ขยายตัว4.9% แต่ต่ำกว่าที่ประมานการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 5.2%โดยได้ปัจจัยจากเทศกาลดนตรีและภาพยนต์ ขณะเดียวกันการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้มีการปรับคาดการณ์ในฝั่งการใช้จ่ายภาครัฐและเอกชนทั้งปีดีขึ้น แต่ปรับลดการเติบโตในฝั่งการบริโภคจาก 3.6% เป็น 3.1% และการลงทุนในสินค้าคงคลังและการส่งออกยังคงอ่อนแอ

ที่มา: Bloomberg

รัฐบาลจีนออกร่างมาตรการควบคุมเกมออนไลน์

• ทางการจีนเผยร่างมาตรการใหม่เพื่อควบคุมการใช้จ่ายเงินในเกมออนไลน์และจำนวนชั่วโมงการเล่นเกม รวมถึงแบนเนื้อหาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้บรรดาหุ้นของบริษัทที่มีรายได้หลักจากเกมออนไลน์ และโซเชี่ยลมีเดียที่เป็นแหล่งรวมสำหรับผู้เล่นเกมออนไลน์ปรับตัวลงอย่างมาก เช่น ราคาหุ้น Tencent ปรับตัวลงกว่า 16% เป็นการปรับตัวลดลงในวันมากที่สุดตั้งแต่ปี 2008 ด้านหุ้น NetEase ลดลงกว่า 24% หุ้น Bilibili ลดลง 14% โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมูลค่าตลาดของหุ้น 3 บริษัทดังกล่าวรวมกัน ลดลงถึง 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้นักลงทุนยังกังวลว่า มาตรการของรัฐบาลจะขยายวงกว้างไปทั้งอุตสาหกรรม เหมือนในอดีตที่เคยใช้มาตรการวบคุมกับอุตสาหกรรมการศึกษา
• อย่างไรก็ตามทางการจีนได้อนุมติ 105 เกมในประเทศในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเกมของบริษัท Tencent และ NetEase และส่งสัญญาณว่า รัฐบาลจีนยังคงส่งเสริมการพัฒนาเกมออนไลน์ ซึ่งการดำเนินการของรัฐบาลจีนในครั้งนี้ สะท้อนว่าทางการจีนต้องการลดการผูกขาดของอุตสาหกรรมเกม และต้องการให้คอนเท้นของเกมมีความคุณภาพและมีนวัตกรรม รวมถึงส่งเสริมให้บริษัทเกมต่างๆ หากำไรอย่างเป็นธรรม และควบคุมบริษัทที่มีกลยุทธ์เน้นทำกำไรสูงสุด

ที่มา: Bloomberg

BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยติดลบ

• ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และส่งสัญญาณว่ามีโอกาสที่จะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นบวก แต่ยังคงรอดูตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อให้แน่ใจว่า BOJ จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อในประเทศได้ ประกอบกับการที่เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับลดดอกเบี้ยปีหน้า สร้างความกดดันให้ BOJ ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนต่อการขึ้นดอกเบี้ย ด้านนักลงทุนให้น้ำหนัก 90% ว่า BOJ จะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน เม.ย. และ 60% ในเดือน มี.ค.ปี 2024
• ด้านเงินเฟ้อในญี่ปุ่นยังมีแนวโน้มสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของ BOJ และแนวโน้มอัตราการเติบโตค่าจ้างของญี่ปุ่นในปีหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปีนี้ ด้านค่าเงินเยนอ่อนค่าลงกว่า 1% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์หลังจากการประชุมของ BOJ ซึ่งหนุนให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่าหาก BOJ สิ้นสุดการผ่อนคลายนโยบายติดลบ จะหนุนให้เงินเยนแข็งค่าอย่างมีนัยสำคัญและอาจเป็นปัจจัยกดดันต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเงินฝืดอีกครั้ง

ที่มา: Bloomberg

Weekly Recap

US

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 3.9% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีปรับตัวลงหลุดระดับ 4% หลังเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3/2566 ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
• Conference Board เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐสูงกว่าคาดในเดือน ธ.ค. โดยดัชนีดังกล่าวปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 110.7 ซึ่งทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. จากระดับ 101.0 ในเดือน พ.ย. ได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคคลายความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงการจ้างงานในสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่ง
• สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าคาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 205,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าตลาดคาดที่ระดับ 215,000 ราย ด้านจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานคงค้างลดลงสู่ระดับ 1.86 ล้านราย
• นักลงทุนคาดการณ์เฟดเริ่มลดดอกเบี้ย มี.ค. 67 แม้ว่านายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์กเผยว่า เฟดยังไม่ได้หารือต่อการปรับลดดอกเบี้ยในขณะนี้ นอกจากนี้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้ง รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีหน้า

Europe

• สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปของยูโรโซน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในเดือน พ.ย. ปรับตัวขึ้น 2.4%YoY จากระดับ 2.9% ในเดือน ต.ค.  และสอดคล้องกับที่ตลาดคาด ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 3.6%YoY สอดคล้องกับที่ตลาดคาดเช่นเดียวกัน
• GfK เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีกระเตื้องขึ้นรับปีใหม่ โดยดัชนีดังกล่าวปรับตัวขึ้นสู่ -25.1 ในช่วงเข้าสู่เดือน ม.ค .จาก -27.6 ในเดือน ธ.ค. และดีกว่าตลาดคาดที่ -27.0 เนื่องจากผู้บริโภคคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามวิกฤตทางภูมิรัฐศาสตร์และสงคราม รวมถึงราคาหารแพงขึ้นและการหารือเกี่ยวกับงบประมาณประเทศสำหรับปี 2567 ยังคงสร้างความไม่แน่นอนต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเยอรมนี
• สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษ ปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยลดลงสู่ระดับ 3.9%YoY ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2564 ขณะที่ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 4.4%YoY จากราคาค่าขนส่ง ค่าบริการสำหรับการนันทนาการ และอาหารและเครื่องดื่มที่ปรับตัวลดลง
• ความเชื่อมั่นธุรกิจอังกฤษลดลงในเดือน ธ.ค. ส่งสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว โดยผลสำรวจดังกล่าวได้สำรวจบริษัท 1,200 แห่งทั่วทั้งอังกฤษ และความเชื่อมั่นลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2565 อย่างไรก็ดีดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตของเอสแอนด์พี (S&P) เดือน พ.ย. ออกดีกว่าที่ตลาดคาด

Asia

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองไว้ที่ระดับ 4.20% ตามที่ตลาดคาด หลังจากมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนที่ระดับ 2.5% ในสัปดาห์ก่อนหน้า
• จีนระงับการผ่อนผันภาษีต่อการนำเข้าสารเคมี 12 ชนิดจากไต้หวัน โดยระบุเหตุผลว่า ไต้หวันละเมิดกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก (WTO) และเงื่อนไขข้อตกลงการค้าปี 2553 ระหว่างไต้หวันกับจีน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนถึงกำหนดการเลือกตั้งครั้งสำคัญในไต้หวัน
• ญี่ปุ่นเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 2.5%YoY ในเดือน พ.ย. เนื่องจากดัชนีราคาในภาคบริการปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาพลังงานปรับตัวขึ้นอย่างอ่อนๆ จากมาตรการอุดหนุนของรัฐบาล อย่างไรก็ดีดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปปรับตัวขึ้น 3.8%YoY บ่งชี้ว่า แรงกดดันจากเงินเฟ้อในญี่ปุ่นยังคงมีอยู่
• ศุลกากรเกาหลีใต้เปิดเผย การส่งออกของเกาหลีใต้ในช่วง 20 วันแรกของเดือน ธ.ค. ขยายตัว 13%YoY โดยได้แรงหนุนจากยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์และรถยนต์ในตลาดต่างประเทศที่ขยายตัว อย่างไรก็ดีการนำเข้าของเกาหลีใต้ลดลง 9.2%YoY

Commodities

• ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI)ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 73ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันมีปัจจัยกดดันจากการคาดการณ์ว่า แองโกลาอาจเพิ่มการผลิตน้ำมันหลังจากถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่ม OPEC
• ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดระดับ 2,055ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ได้แรงหนุนได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐที่ปรับตัวลดลง และการเผยตัวเลข PCE เดือน พ.ย. ซึ่งเป็นเงินเฟ้อของสหรัฐที่ออกมาชะลอตัวลง หนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
• ค่าเงินบาทแข็งค่าปิดบริเวณ 34.60บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลังเฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 1 ของปีหน้า ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยในประเทศหนุนเงินบาทอย่างชัดเจน

ความเคลื่อนไหวหุ้นสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่มา: Tradingview.com as of 24 December 2023

อัปเดทกองทุนพักเงิน

ที่มา: AspenRTD, data as of 24 December 2023

หมายเหตุ: อัตราผลตอบแทนเมื่อถือจนครบกำหนดอายุของกองทุน นำมาจาก Yield to Maturity ที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนสรุปข้อมูลสำคัญของกองทุ

โดยรายละเอียดกองทุนที่แนะนำให้กับลูกค้าจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับระดับการยอมรับความเสี่ยง ผลตอบแทนคาดหวัง ข้อจำกัดในการลงทุนของแต่ละบุคคล และเรามีการคัดเลือกและวิเคราะห์กองทุนที่เหมาะกับวัตถุประสงค์การลงทุนของแต่ละบุคคล

โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ติดต่อทีมงานฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน เพื่อสอบถามรายละเอียดและคำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมกับท่าน ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 02-026-6875   หรือ อีเมลล์ investment@wealthcertified.co.th

Wealth Certified Investment Team

นาย พันเลิศ เจริญสวรรค์ : นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ ผู้วางแผนการลงทุน

นาย กรวิชญ์ สำเภาสงฆ์ : นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน ผู้วางแผนการลงทุน

อ่านบทความย้อนหลังได้ที่

https://wealthcertified.co.th/wcia-weekly-highlight-18-december-2023/
https://wealthcertified.co.th/wealth-certified-2023-investment-outlook/