บทความการลงทุนประจำสัปดาห์ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ สัปดาห์ที่ผ่านมานำโดย ราคาน้ำมัน ทองคำ หุ้นจีน และดัชนีหุ้น Nasdaq ที่เพิ่มขึ้นหลังการประกาศงบของ Tesla และการเก็งกำไรหุ้น Tech ที่จะออกมาในสัปดาห์นี้
Major Indices Return
Valuation and EPS Growth
สัปดาห์นี้ ค่า PE ตลาดหุ้นลดลง แต่ Bond Yield ทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ Earning Yield Gap การลงทุนในหุ้นเทียบตราสารหนี้ ณ ปัจจุบัน แคบกว่าสัปดาห์ก่อน
นักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรต่อหุ้น ของตลาดหุ้นทั่วโลกปีนี้เพิ่มขึ้นแต่ไปลดในปีหน้าลง สะท้อนมุมมองเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการปรับตัวเลขในปีหน้าอย่างมีนัยสำคัญหลังการประกาศงบ โดย Nasdaq และตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง มีการ revise earning up
IMF Economic Outlook October 24
•แนวโน้มการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกคาดว่าจะคงตัวที่ 3.2% สำหรับปี 2024 และ 2025 มีการปรับประมาณการในแต่ละภูมิภาค โดยเพิ่มการเติบโตของสหรัฐฯ แต่ลดลงในยุโรปและภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์การเติบโตในระยะกลางยังคงชะลอตัว เนื่องจากปัญหาโครงสร้าง เช่น การสูงวัยของประชากรและประสิทธิภาพการผลิตที่ต่ำ
•การลดลงของเงินเฟ้อและการปรับนโยบาย การลดลงของเงินเฟ้อทั่วโลกคาดว่าจะดำเนินต่อไป โดยเงินเฟ้อจะลดจาก 6.7% ในปี 2023 เป็น 5.8% ในปี 2024 และ 4.3% ในปี 2025ประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าคาดว่าจะกลับสู่อัตราเงินเฟ้อเป้าหมายได้เร็วขึ้น ขณะที่ตลาดเกิดใหม่ยังคงเผชิญแรงกดดันจากราคาบริการและอาหารที่สูง
•การเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการเงินและการคลัง ธนาคารกลางในประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้ากำลังเปลี่ยนทิศทางสู่การลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานที่อ่อนแอ ส่วนตลาดเกิดใหม่ได้รับประโยชน์จากแรงกดดันทางการเงินที่ผ่อนคลายลงIMF เน้นย้ำความจำเป็นในการรวมศูนย์นโยบายการคลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพหนี้และสร้างกันชนการคลัง โดยเน้นให้มีการปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีความน่าเชื่อถือ
•ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ความเสี่ยงด้านลบเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความผันผวนของตลาดการเงิน การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีน และการเพิ่มความตึงเครียดด้านการคุ้มครองการค้าตลาดเกิดใหม่ที่มีความจำเป็นในการระดมทุนระยะสั้นจากต่างประเทศเผชิญความเสี่ยงเพิ่มเติมจากแรงกดดันด้านสกุลเงินและหนี้
•ความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์และโครงสร้าง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจส่งผลต่อการค้าและการลงทุน ทำให้ห่วงโซ่อุปทานเกิดความผันผวนจำเป็นต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพการผลิต ความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน และความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากการเติบโตในระยะกลางที่ยังคงชะลอตัว
•เจ้าหน้าที่จาก IMF และธนาคารโลกให้ความเห็นว่า การลดดอกเบี้ย การเพิ่มเงินสำรองให้ธนาคารจีน และการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เพียงพอ โดยนักลงทุนกำลังจับตาการประชุมสภานิติบัญญัติสูงสุดของจีนระหว่างวันที่ 4-8 พฤศจิกายน ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมหรือไม่เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ วิจารณ์แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจีนว่าไม่แก้ไขปัญหาหลัก เช่น ปัญหากำลังการผลิตที่เกินและอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ โดยคาดว่าจีนอาจรอผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ก่อนตัดสินใจ นักวิเคราะห์บางคนมองว่าจีนอาจจำเป็นต้องออกมาตรการขนาดใหญ่หากผลการเลือกตั้งไม่เอื้ออำนวยต่อจีน เช่น หากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะและใช้ภาษี 60% กับสินค้าจีน
Real GDP Projection 2024 / 2025
US = 2.8 / 2.2 China = 4.8 / 4.5 Vietnam 6.1 / 6.1
EU = 0.8 / 1.2 India = 7 / 6.5
JP = 0.3 / 1.1 Thailand = 2.8 / 3.0
อ่านบทความฉบับเต็ม https://www.imf.org/en/Publications/WEO
การเลือกตั้งสหรัฐ
ผลกระทบต่อหุ้นหากแฮร์ริสชนะ
หากแฮร์ริสชนะ ตลาดหุ้นอาจยังคงเติบโตเช่นเดียวกับในสมัยของไบเดน แต่การขึ้นภาษีบริษัทและการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นอาจทำให้การเติบโตของหุ้นช้าลง โดยเธอมีเป้าหมายจะขึ้นภาษีเป็น 28% (ปัจจุบัน 21%) ซึ่งอาจลดกำไรของบริษัทและชะลอตลาด ส่วนภาคพลังงานหมุนเวียนจะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนของแฮร์ริส
ผลกระทบต่อหุ้นหากทรัมป์ชนะ
ทรัมป์สัญญาจะขยายการลดภาษีสำหรับบริษัทและผลักดันการลดกฎระเบียบ ซึ่งการผสมผสานระหว่างภาษีที่ต่ำและกฎระเบียบที่น้อยลงจะช่วยเพิ่มผลกำไรและหนุนราคาหุ้น โดยเฉพาะภาคน้ำมัน ก๊าซ และปัญญาประดิษฐ์ ในขณะที่ภาคพลังงานหมุนเวียนอาจได้รับผลกระทบหากทรัมป์ลดสิทธิประโยชน์ที่สนับสนุนภายใต้รัฐบาลไบเดน อย่างไรก็ตาม นโยบายภาษีนำเข้าที่สูงถึง 20% (จีน 60%) และการขาดแคลนแรงงานที่อาจเกิดขึ้นจากการเนรเทศแรงงานต่างชาติ อาจส่งผลลบต่อตลาด
ติดตามการเลือกตั้งสหรัฐได้ที่
https://edition.cnn.com/election/2024
งบ TSLA
•กำไรเกินความคาดหมาย:
Tesla มีกำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้ว (EPS) อยู่ที่ $0.72 หรือกำไรสุทธิ $2.51 พันล้าน ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ $0.59 ต่อหุ้นและกำไรสุทธิ $2.01 พันล้าน ส่วนรายได้อยู่ที่ $25.18 พันล้าน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ $25.47 พันล้าน
•แนวโน้มยอดขายและกำไร:
ยอดขายและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบปีต่อปี ถือเป็นการยุติการลดลงของกำไรติดต่อกันถึงสี่ไตรมาส โดย Tesla ระบุว่าอยู่ระหว่างการเติบโตครั้งใหญ่
•คาดการณ์การส่งมอบยานยนต์:
Tesla คาดการณ์การเติบโตเล็กน้อยในการส่งมอบยานยนต์ในปีนี้ ซึ่งเกินความคาดหมาย โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงจาก 1.81 ล้านคันในปีที่แล้วเหลือ 1.78 ล้านคัน
•ราคาหุ้นพุ่งหลังประกาศผล:
การคาดการณ์ของ Musk เกี่ยวกับการเติบโตในการส่งมอบ 25%-30% ในปีหน้า และการเตรียมเปิดบริการแท็กซี่ไร้คนขับในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสภายในปี 2025
•รายได้จากเครดิตการปล่อยมลพิษ:
Tesla รายงานรายได้จากเครดิตการปล่อยมลพิษ $739 ล้าน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ $539 ล้าน เครดิตเหล่านี้ช่วยให้ Tesla ทำกำไรได้สูง เนื่องจากขายให้กับบริษัทรถยนต์ที่ยังไม่สามารถลดการปล่อยมลพิษได้ตามมาตรฐาน
ประกาศงบสัปดาห์นี้และการคาดการณ์
AMZN: Positive
AMD: Positive
GOOGL: Positive
MSFT: Positive
AAPL: Positive
META: Positive
IBM: Positive
INTC: Positive
PYPL: Positive
IPO
จัดอันดับกองทุนพักเงิน
ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่ Market Update – Wealth Certified
Disclaimer
ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของเอกสารฉบับนี้ รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการขาดทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น
เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปและไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยปราศจากความเห็นชอบและอนุญาตจากบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด