ไทย ENG

CONTACT US
0-2026-6875

Weekly Highlight 26 พฤษภาคม 2568

26/05/2025

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลหลังการประมูลพันธบัตรสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอ ประกอบกับข่าว Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตในช่วงอาทิตย์ก่อนหน้าสร้าง sentiment เชิงลบให้กับตลาดโดยรวมในช่วงอาทิตย์ก่อน นอกจากนี้มีความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างกฎหมายภาษีของทรัมป์ซึ่งได้ผ่านสภาล่างด้วยคะแนนเสียงที่ฉิวเฉียดและยังจับตาการประชุม G7 ที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้าและการเจรจาการค้าในแถบประเทศอื่นๆส่วนด้านราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ขณะที่ทองมีแรงซื้อกลับเนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นและค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

ค่า PE ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากหุ้นความคลายกังวลในช่วงสั้นหลังมีความชัดเจนการเจรจาการค้ามากขึ้นแม้ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นประเทศอื่นๆมีค่า PE ที่สูงขึ้น ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นทำให้ Earning Yield Gap มีแนวโน้มแคบลงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา

News overview from last week

Trump’s tax bill passes with a 215-214 vote

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายภาษีขนาดใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีชื่อว่า “One Big Beautiful Bill” ด้วยคะแนนเสียงเฉียดฉิว 215 ต่อ 214 เสียง โดยร่างกฎหมายนี้มีรายละเอียดสำคัญดังนี้:

💰 การลดภาษีและสิทธิประโยชน์ทางการเงิน

• ขยายการลดภาษีจากปี 2017 ให้เป็นถาวร

• ยกเว้นภาษีสำหรับเงินทิปและค่าล่วงเวลา

• เพิ่มการหักลดหย่อนภาษีสำหรับผู้สูงอายุที่ได้รับเงินประกันสังคม

• ลดภาษีสำหรับเงินบำนาญ, สินเชื่อรถยนต์ และครอบครัวที่มีบุตร

🏥 การปรับลดงบประมาณสวัสดิการสังคม

•ลดงบประมาณ Medicaid ประมาณ 800 พันล้านดอลลาร์ และ SNAP (โครงการอาหารเสริม) อีกหลายพันล้านดอลลาร์

• กำหนดให้ผู้รับสิทธิ์ Medicaid ต้องมีงานทำภายในปี 2026

•ยกเลิกเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดที่มีอยู่ในยุคของไบเดน

🛡️ การเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงและการทหาร

• เพิ่มงบประมาณสำหรับการรักษาความปลอดภัยชายแดนและกองทัพสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ

• เสนอภาษี 5% สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากเม็กซิโกว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ

📉 ผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเมือง

• สำนักงานงบประมาณรัฐสภาคาดการณ์ว่าร่างกฎหมายนี้จะเพิ่มหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ มากกว่า 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า ทำให้ระดับหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 125% ของ GDP

• ตลาดการเงินตอบสนองด้วยความผันผวน รวมถึงการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนในตลาดพันธบัตรและหุ้น

Source: Trump to join House Republicans as his tax bill nears deadline | Reuters

G7 Finance Ministers and Central Bank Governors Meeting

การประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G7

ระหว่างวันที่ 20–22 พฤษภาคม 2025 ที่เมืองแบมฟ์ รัฐอัลเบอร์ตาประเทศแคนาดามีประเด็นสำคัญดังนี้ :

• การจัดการกับความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ G7 ออกแถลงการณ์ร่วมมุ่งเน้นการแก้ไข “ความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ” โดยหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงประเทศใดโดยตรง แต่มีการวิพากษ์นโยบายการค้าของจีน เช่น การอุดหนุนการส่งออกและการควบคุมค่าเงิน ซึ่งถูกมองว่าเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด

• สงครามในยูเครนและการคว่ำบาตรรัสเซีย G7 ยืนยันการสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่อง และเตือนว่าหากไม่มีการหยุดยิง อาจมีการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ถ้อยคำในแถลงการณ์เกี่ยวกับสงครามยูเครนถูกปรับให้นุ่มนวลลงจากแถลงการณ์ก่อนหน้า

• ความตึงเครียดเรื่องภาษีของสหรัฐฯ แม้แถลงการณ์จะไม่กล่าวถึงมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยตรงแต่มีการหารือภายในเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ กำหนด ซึ่งสร้างความไม่พอใจในหลายประเทศสมาชิก โดยเฉพาะแคนาดาและสหภาพยุโรป WSJ

🔜 การประชุมสุดยอดผู้นำ G7 การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการปูทางสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 15–17 มิถุนายน 2025 ที่หมู่บ้านคานานาสกิส รัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ได้ยืนยันการเข้าร่วมแล้ว

Source: G7 finance leaders try to downplay tariff disputes, find consensus | Reuters

ASEAN SUMMIT : New Challenges and the Region’s Role on the Global Stage 

ผู้นำอาเซียนจัดประชุมสุดยอด 2 วันในกัวลาลัมเปอร์ โดยมีเป้าหมายหลักในการกระชับความสัมพันธ์กับจีนและประเทศอ่าวเปอร์เซีย พร้อมทั้งลดผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สาระสำคัญ:

ผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ การขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ระหว่าง 10% ถึง 49% ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียนหลายประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามและกัมพูชา . รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย โมฮัมหมัด ฮาซัน เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจและการกระจายตลาดการค้า เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้อย่างมีประสิทธิภาพ .

วิกฤตการณ์ในเมียนมาร์ สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาร์ยังคงเป็นประเด็นสำคัญในการประชุม โดยนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ได้ริเริ่มการเจรจากับทั้งผู้นำกองทัพและรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) เพื่อหาทางออกสู่สันติภาพ

ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ข้อพิพาททางทะเลระหว่างจีนกับประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องการการเจรจาเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของขอบเขตของข้อตกลงและสถานะทางกฎหมายของรหัสพฤติกรรมในทะเลจีนใต้ .

การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและพลังงานสีเขียว การประชุมได้หารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาพลังงานสีเขียว เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาค

Source: US Tariffs Loom Over Asia Summit as Ties With China Strengthen – Bloomberg

Trump threatens to impose a 50 percent tariff on EU imports

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรป 50 เปอร์เซ็นต์ และระบุว่าอาจเรียกเก็บภาษี 25 เปอร์เซ็นต์จากสมาร์ทโฟนกับอุปกรณ์ที่ผลิตในต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการทวีความรุนแรงของสงครามการค้าครั้งล่าสุดที่ส่งผลกระทบต่อตลาดและก่อให้เกิดความสับสนแก่ธุรกิจ

ทรัมป์ย้ำถึงข้อตำหนิของเขาต่อสหภาพยุโรปเมื่อวันศุกร์ โดยกล่าวหาว่าสหภาพยุโรปดำเนินการเจรจาอย่างล่าช้า และดำเนินคดีและออกกฎเกณฑ์เพื่อโจมตีบริษัทของสหรัฐอย่างไม่เป็นธรรม ประธานาธิบดีทรัมป์ยังลดความสำคัญของความสามารถของสหภาพยุโรปในการหลีกเลี่ยงอัตราภาษีที่สูงขึ้น ซึ่งเขากล่าวว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน “เราได้กำหนดข้อตกลงไว้ที่ 50%”

นอกจากนั้น ประธานาธิบดียังกล่าวอีกว่าภาษีนำเข้า สินค้า จาก Apple Inc. ที่อาจจะเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเขาขู่ไว้ในโพสต์ทางโซเชียลมีเดียเมื่อเช้าวันศุกร์ โดยจะเรียกเก็บกับอุปกรณ์จากSamsung Electronics Co. “และใครก็ตามที่ผลิตสินค้าประเภทนั้น” และว่ารัฐบาลของเขากำลังจะจัดเก็บภาษีนี้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน

Source: Trump Threatens a 50% Tariff on EU Goods Starting in June – Bloomberg

กองทุนเสนอขายครั้งแรก และการจัดอันดับกองทุนพักเงิน

จัดอันดับกองทุนพักเงินประเภทกองทุนตลาดเงินและตราสารหนี้ระยะสั้น โดยเรียงลำดับตามอัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี

ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://wealthcertified.co.th/market-update/

Disclaimer

ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของเอกสารฉบับนี้ รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการขาดทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น

เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปและไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยปราศจากความเห็นชอบและอนุญาตจากบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด

You cannot copy content of this page