ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแรงหนุนหลักมาจากกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งเกินคาด นักลงทุนเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังข้อมูลการบริโภคและตลาดแรงงานยังสะท้อนความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แม้ยังมีความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศ แต่ตลาดให้น้ำหนักกับแนวโน้มการเติบโตของภาคเทคโนโลยีมากกว่า ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องจากการลดความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยในระยะสั้น กดดันราคาทองคำให้ชะลอตัวและพักฐาน ส่วนราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งหลัง IEA ประเมินว่าตลาดน้ำมันยังอยู่ในภาวะตึงตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ประกอบกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงอยู่หลังทรัมป์ขู่แบนรัสเซียอีกครั้ง
ค่า PE ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้โอกาสขึ้นดอกเบี้ยลดลงและการค้ายังไม่ชัดเจน แต่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่มองความเสี่ยงจำกัด ความคาดหวังต่อกลุ่มเทคโนโลยีกลับมาอีกครั้ง แต่ยังติดตามความชัดเจนการเจรจาที่ยังมีความผันผวน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทรงตัว ทำให้ Earning Yield Gap โดยรวมมีแนวโน้มแคบลงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา
News overview from last week
ASML Issues Revenue Warning for 2026 Despite Strong Q2 Orders
ASML เตือนรายได้ปี 2026 อาจไม่เป็นไปตามคาด แม้งบไตรมาสล่าสุดออกมาดีกว่าคาด
ยอดจองสูงกว่าคาด: ASML รายงานยอดจองในไตรมาสที่ 2 จำนวน 5.54 พันล้านยูโร สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 25%
แรงหนุนจาก AI: ความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนใน AI โดยเฉพาะจาก Nvidia และ TSMC เป็นปัจจัยหลัก
ความกังวลเรื่องภาษี: ASML เตือนว่าอาจไม่สามารถบรรลุการเติบโตในปี 2026 เนื่องจากความไม่แน่นอนจากภาษีของสหรัฐฯ และความตึงเครียดทางการเมืองแนวโน้มในจีน: ความต้องการจากจีนยังคงแข็งแกร่ง คิดเป็น 27% ของยอดขายล่าสุด
Goman Sach คาดการณ์หากเกิดการเก็บภาษีจริงผลกระทบต่อตัวเศรษฐกิจจะใช้เวลาประมาณ 2-3เดือน และโดยรวมจะกระทบต่อราคาสินค้าในสหรัฐอเมริกาที่จะต้องเพิ่มขึ้น ในสมมุติฐานทั่วโลกโดนภาษีเฉลี่ย 14% โดยประมาณการจะมีส่วนของผู้ส่งออกแบกรับไว้ประมาณ 3%+- อีก 11%+- จะเป็นของส่วนผู้นำเข้าและผู้บริโภค
source : ASML says it may not achieve 2026 growth as chipmakers face US tariff uncertainty | Reuters
TSMC Q2 2025 Earnings Beat Expectations with Strong AI Demand
ผลประกอบการ TSMC ไตรมาส 2/2025 TSMC มีกำไรสุทธิ T$398.3 พันล้าน (~US$13.5 พันล้าน) +60.7% YoY สูงกว่าคาดการณ์ที่ T$377.9 พันล้าน
รายได้รวม T$933.8 พันล้าน +38.6% YoY เติบโตเกินคาดเช่นกัน
รายได้จากกลุ่ม AI (3 nm และ 5 nm) แข็งแกร่ง ช่วยชดเชยยอดขายชิปมือถือที่ลดลง
บริษัทกังวลภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (อาจมีผล Q4) และค่าเงิน NT$ แข็งค่า
อัตรากำไรขั้นต้น Q2 อยู่ที่ 58.6% คาด Q3 ลดลงเหลือ 55.5–57.5%
source : TSMC quarterly profit seen soaring to record but Trump tariffs, forex a concern | Reuters
Tesla (TSLA) Earning
🚗 Tesla (TSLA) – ไตรมาส 2 ปี 2025
คาดการณ์ทางการเงิน:
ยอดส่งมอบรถอยู่ที่ 384,122 คัน ลดลงประมาณ 13.5% จากปีก่อน
รายได้คาดว่าจะอยู่ที่ 22.7–22.9 พันล้านดอลลาร์ ลดลง ~10% จากปีก่อน
กำไรต่อหุ้น (EPS) คาดอยู่ที่ $0.43–0.44 ลดลงจาก $0.50 ในปีก่อน
คำกล่าวและมุมมองของผู้บริหาร:
Tesla แพ็กเกจส่วนลดใหม่ก่อนเครดิตภาษีหมดอายุ เปิดตัวแคมเปญลดราคาและสินเชื่อพิเศษในสหรัฐฯ จะหมดอายุสิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยมีทั้งข้อเสนอเช่ารถราคาถูก ดอกเบี้ยต่าสุดถึง 0% และสิทธิ์อัปเกรดฟรีในบางรุ่น ท่ามกลางแรงกดดันจากยอดขายที่ชะลอในยุโรปและจีนแต่ยังเติบโตในตลาดอเมริกาเชื่อว่าบริษัทจะเน้นเรื่อง Robotaxi, EV ราคาประหยัด, และ FSD (ขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ)
Alphabet (GOOGL) Earning
🌐 Alphabet (GOOGL) – ไตรมาส 2 ปี 2025
คาดการณ์ทางการเงิน:
รายได้รวมคาดว่าจะอยู่ที่ 93.8–93.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น ~10–11% จากปีก่อน
EPS คาดว่าจะอยู่ที่ $2.12–2.18 เพิ่มขึ้น ~13% จากปีก่อน
ปัจจัยผลักดันหลัก:
รายได้จาก Google Cloud โตแรง คาดโต +26% YoY (~13 พันล้านดอลลาร์)
การใช้งาน Gemini 2.5 และ AI Overview กระจายทั่ว Search และ Cloud
YouTube และโฆษณายังคงเป็นแหล่งรายได้หลัก
Nvidia’s resumption of AI chips to China is part of rare earths talks
ทรัมป์ประกาศเตรียมเก็บภาษี 10% ต่อกลุ่มประเทศ BRICS เพื่อตอบโต้นโยบายต่อต้านสหรัฐฯ
สหรัฐฯ กำลังเตรียมเรียกเก็บภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS (“Brazil, Russia, India, China, South Africa”) และประเทศที่เข้าร่วมใหม่เช่น อิหร่านและอินโดนีเซีย โดยระบุว่าจะมีการเริ่มขึ้น “เร็วๆ นี้”
ทรัมป์อ้างว่า BRICS ถูกตั้งขึ้นเพื่อพยายามลดบทบาทของดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสกุลเงินสำรองโลก ซึ่งเขาเทียบว่าการสูญเสียสถานะนั้นเปรียบเสมือน “พ่ายแพ้ในสงครามครั้งใหญ่”
ประธานาธิบดีลูลา จากบราซิล วิพากษ์วิจารณ์นโยบายนี้ของทรัมป์ โดยกล่าวว่าโลกไม่ต้องการ “จักรพรรดิ” และไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอเรียกเก็บภาษีต่อ BRICS
ยังไม่มีการกำหนดวันที่ชัดเจนว่าภาษี 10% จะเริ่มใช้เมื่อใด ทรัมป์ระบุว่าจะขึ้นอยู่กับการที่แต่ละประเทศใช้ “นโยบายต่อต้านอเมริกา” โดยจะส่งจดหมายแจ้งล่วงหน้าก่อน
source : Nvidia to boost H20 chip sales to China after US export restrictions ease
U.S. Announces 30% Tariffs on Mexico and EU
| 🧩 ประเด็น | 🇲🇽 เม็กซิโก | 🇪🇺 สหภาพยุโรป |
| เหตุผลหลัก | ยา Fentanyl และการค้ายาเสพติด | ดุลการค้าเสียเปรียบต่อสหรัฐฯ |
| มาตรการ | เก็บภาษีนำเข้า 30% เริ่ม 1 ส.ค. 2025 | เก็บภาษีนำเข้า 30% เริ่ม 1 ส.ค. 2025 |
| เงื่อนไขยกเว้นภาษี | หากลงทุนหรือผลิตในสหรัฐฯ จะไม่ถูกเก็บภาษี | หากลงทุนหรือผลิตในสหรัฐฯ จะไม่ถูกเก็บภาษี |
| ท่าทีต่อการตอบโต้ | หากเม็กซิโกขึ้นภาษีตอบโต้ จะบวกเพิ่มจาก 30% | หาก EU ขึ้นภาษีตอบโต้ จะบวกเพิ่มจาก 30% |
| โทนภาษาในจดหมาย | แข็งกร้าว เน้นภัยจากยาเสพติด | มุ่งเน้นความเป็นธรรมและสมดุลทางการค้า |
source : Trump intensifies trade war with threat of 30% tariffs on EU, Mexico | Reuters
U.S. and Indonesia Reach $34 Billion Trade Deal to Cut Tariffs
🎯 สหรัฐฯ–อินโดนีเซีย บรรลุข้อตกลงการค้า ลดภาษีนำเข้า แลกเปิดตลาด-ซื้อสินค้า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์
สหรัฐฯ และอินโดนีเซียประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าใหม่ โดยสหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากอินโดนีเซียเหลือ 19% จากเดิมที่ขู่จะเก็บ 32% ขณะที่อินโดนีเซียตกลงเปิดตลาดให้สินค้าจากสหรัฐฯ เข้านำเข้าโดยไม่เสียภาษี (0%) พร้อมยืนยันการจัดซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ รวมมูลค่ากว่า 34,000 ล้านดอลลาร์
ในรายละเอียด อินโดนีเซียจะนำเข้าพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ สินค้าเกษตร เช่น ถั่วเหลือง ข้าวสาลี และเนื้อสัตว์ อีก 4,500 ล้านดอลลาร์ และยังได้ลงนามในข้อตกลงจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้งจำนวน 50 ลำ เพื่อเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมการบินในประเทศ
ข้อตกลงครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของสหรัฐฯ ที่ต้องการสร้างพันธมิตรการค้าที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และลดการพึ่งพาจีนในห่วงโซ่อุปทาน โดยมีการระบุด้วยว่า หากพบว่ามีการลักลอบส่งสินค้าจากจีนผ่านอินโดนีเซีย (transshipment) เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี จะมีมาตรการภาษีตอบโต้เพิ่มเติม
ภายหลังประกาศข้อตกลง ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปรับตัวขึ้นกว่า 0.7% นักลงทุนคาดการณ์ว่าเม็ดเงินลงทุนจากสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมลง 0.25% สู่ระดับ 6% เพื่อหนุนเศรษฐกิจในระยะสั้น
source : Indonesia clinches US trade deal, says Trump was a ‘tough negotiator’
China relations, global tariffs, and trade talks with India and Indonesia
🎯 Trump ลดโทนรุนแรงต่อจีน หวังเปิดทางประชุมผู้นำ Xi‑Trump และบรรลุข้อตกลงการค้า
เปลี่ยนท่าที: หมดยุคคำพูดกีดกันรุนแรงทางการค้า เปลี่ยนมาใช้ถ้อยคำที่เป็นมิตรกับจีน เพื่อเปิดทางจำเป็นสำหรับการจัดประชุมผู้นำ (ซัมมิต) ระหว่าง Trump–Xi เพื่อเจรจาข้อตกลงด้านการค้าด้าน AI และแร่หายาก
source : Trump says US will be fighting China ‘in a very friendly fashion’
🎯 Trump เตรียมส่งจดหมายภาษีให้กว่า 150 ประเทศ ตั้งอัตราภาษีใหม่เฉลี่ย 10%–15%
แผนใหม่: ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเตรียมส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีใหม่ให้กับกว่า 150 ประเทศที่มีการค้าจำกัดกับสหรัฐฯ โดยตั้งอัตราภาษีเฉลี่ยระหว่าง 10%–15% เพื่อปรับสมดุลการค้าและปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
source : Trump Eyes Tariff Rate of 10% or 15% for More Than 150 Countries – Bloomberg
🎯 อินเดียขออัตราภาษีต่ำกว่าของอินโดนีเซียในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ
เป้าหมาย: อินเดียกำลังเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยต้องการอัตราภาษีที่ต่ำกว่าของอินโดนีเซีย เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
สถานะการเจรจา: อินเดียได้เสนอให้ยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมด ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นสัญญาณบวกในการเจรจา
source : India Seeks Lower Tariff Than Indonesia in Race for Deal With US – Bloomberg
Trump Denies Plans to Fire Fed Chair Powell
📉 สถานการณ์ตลาดเบื้องต้น
เมื่อวันพุธ Bloomberg รายงานว่า ทรัมป์อาจสั่งปลดนาย Jerome Powell ประธาน Fed ส่งผลให้ตลาดหุ้นอ่อนตัวลง ดอลลาร์ร่วงประมาณ 0.7% และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ วิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังไม่ดิ่งลึก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของ Fed
🧾 รายงานจากนาย Trump
หลังข่าวล็อบบี้ภายใน White House ต่อเนื่องทรัมป์ออกมาปฏิเสธว่า เขาไม่มีแผนจะปลด Powell แม้อาจถือว่า “เป็นไปได้แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเว้นแต่มีกรณีทุจริต”
หลังการยืนยันนี้ ตลาดเริ่มฟื้นตัว ดัชนีหุ้นกลับมาบวกเล็กน้อย ดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรปรับกลับใกล้ระดับก่อนหน้า
💡 มุมมองนักวิเคราะห์
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การปลดประธาน Fed อาจเป็น “ผิดกฎหมาย” และกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดอย่างหนัก
นักลงทุนเริ่ม “ไม่สะทกสะท้าน” ต่อข่าวลือข่าวฉาวเกี่ยวกับ Fed เพราะมองว่าเป็นแค่การปล่อยข่าวทดสอบ (trial balloon) จากฝั่งการเมือง ซึ่งมักถูกดิสเครดิตหลังจากนั้น
source : Instant view: Markets gyrate on brief scare that Trump will fire Fed’s Powell | Reuters
Ruling Coalition Loses Upper House Majority
• พ่าย ส.ส.ว. ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1955
การเลือกตั้งวันที่ 20 กรกฎาคม 2025 แสดงให้เห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลของนายกฯ ชิเกรุ อิชิบะ (LDP‑โคเมอิโตะ) เสียเสียงข้างมากในวุฒิสภา (สภาสูง) จาก 248 ที่นั่ง (ครึ่งนึงคือ 125 ที่นั่ง) ต้องใช้อย่างน้อย 50 ที่นั่งใหม่ แต่ปรากฏว่าจะได้แค่ราว 46–47 ที่นั่ง
• อิชิบะประกาศยังอยู่ต่อ
แม้เป็น “ผลสะท้อนแรง” (harsh result) แต่นายกฯ กล่าวว่าจะ “รับผิดชอบต่อประเทศ” และอยู่ต่อเพื่อจัดการเรื่องสำคัญ เช่น การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ที่มีเส้นตาย 1 สิงหาคม
• ฝ่ายค้านขึ้นนำด้วยนโยบายลดภาษี–กระตุ้นเศรษฐกิจ
พรรคฝ่ายค้านรวมถึงพรรคแนวประชานิยมเช่น Sanseito และ Constitutional Democratic Party ได้ที่นั่งเพิ่ม โดยเสนอแผนลดภาษีเช่น VAT/consumption tax ซึ่งสอดคล้องกับเสียงเรียกร้องขณะนี้ (ประชาชน 68% ต้องการลดภาษี)
• ผลกระทบต่อตลาดการเงินและนโยบายเศรษฐกิจ
การเมืองพลักดันนโยบายการเงินของ BOJ ที่อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไป นักลงทุนคาดว่าจะมีการใช้จ่ายภาครัฐมากขึ้น เสี่ยงต่อการขายพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว (JGB) และกระตุ้นให้ผลตอบแทนพุ่งสูงขึ้น – 30‑year และ 10‑year JGB แตะระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ
source : Japan’s Ishiba Vows to Stay On Despite Historic Setback – Bloomberg
Oil edges down as market contemplates potential sanctions, tariffs
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากความกังวลเรื่องมาตรการคว่ำบาตรและภาษีทุติยภูมิที่อาจเกิดขึ้น หากรัสเซียไม่ยุติสงครามในยูเครนภายใน 50 วันตามคำขู่ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์
ทรัมป์เตือนว่าหากยังไม่มีข้อตกลงยุติสงคราม สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 100% ต่อประเทศที่ยังมีการค้ากับรัสเซีย
ตลาดเริ่มตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้จริงของนโยบายดังกล่าว และชั่งน้ำหนักผลกระทบที่อาจเกิดต่ออุปทานน้ำมันโลก
นักวิเคราะห์มองว่าความไม่แน่นอนนี้สร้างแรงกดดันระยะสั้นต่อราคาน้ำมัน แต่ยังไม่มีปัจจัยพื้นฐานใหม่ที่เปลี่ยนแปลงแนวโน้มโดยรวม จับตาความคืบหน้าทางการเมืองและท่าทีของประเทศผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ เช่น จีนและอินเดีย ว่าจะตอบสนองอย่างไรต่อคำขู่ของทรัมป์
source : Oil slips as Trump’s 50-day deadline for Russia eases supply fears | Reuters
Israel Launches Airstrikes on Syrian Military Targets
อิสราเอลโจมตีเป้าทางทหารในซีเรียท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น
•เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศเป้าทางทหารในกรุงดามัสกัส รวมทั้งกระทรวงกลาโหมและพื้นที่ใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี
•การโจมตีเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้การปราบปรามชนกลุ่มดรูซในเมืองสุเวย์ดาของซีเรีย ซึ่งมีการปะทะรุนแรงกับชนเผ่าเบดูอิน
•อิสราเอลระบุว่าปฏิบัติการนี้เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางทหารใกล้ชายแดนและปกป้องชนกลุ่มดรูซ
•ซีเรียยืนยันมีผู้เสียชีวิตในหมู่เจ้าหน้าที่ความมั่นคง แต่ยังคงยืนยันจะรักษาความสงบและไม่หวั่นไหวต่อการโจมตี
•ตุรกีแสดงความกังวลอย่างมาก ระงับการค้ากับอิสราเอล และเรียกทูตกลับเพื่อปรึกษาเรื่องสถานการณ์
source : Israel bombs Damascus, Syrian leader says not afraid of war – as it happened | Reuters
กองทุนเสนอขายครั้งแรก และการจัดอันดับกองทุนพักเงิน
จัดอันดับกองทุนพักเงินประจำสัปดาห์ วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ประเภทกองทุนตลาดเงิน ตราสารหนี้ระยะสั้น และตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว โดยเรียงตามอัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี
ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://wealthcertified.co.th/market-update/
Disclaimer
ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของเอกสารฉบับนี้ รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการขาดทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น
เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปและไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยปราศจากความเห็นชอบและอนุญาตจากบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด