ไทย ENG

CONTACT US
0-2026-6875

Weekly Highlight 21 เมษายน 2568

21/04/2025

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวผสมผสาน โดยส่วนใหญ่แกว่งตัวออกด้านข้าง หลังการฟื้นตัวจากที่ ปธน.ทรัมป์มีการประกาศระงับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศทั่วโลก 90 วัน ยกเว้นจีน โดยระหว่างนี้สหรัฐได้มีการเจรจาการค้ากับหลายประเทศ ซึ่งทำให้ตลาดยังคงรอดูความชัดเจนของมาตรการภาษีต่อไป โดยน้ำมันดิบเป็นสินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มสูงสุดรายสัปดาห์ที่+5.17% รองลงมาคือดัชนีหุ้นอินเดีย ขณะที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี ที่+26.5%

Major Indices Return

IMF-World Bank Spring Meeting 2025

จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–20 เมษายน ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ผลกระทบจากสงครามภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

IMF คาดการณ์ใหม่: Kristalina Georgieva ผู้อำนวยการ IMF ยอมรับว่า จะมีการ “ลดคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญ” แต่ยังไม่ถึงขั้นเข้าสู่ภาวะถดถอยตัวเลขสำคัญ:คาดการณ์ GDP โลกปี 2025 ปรับลงเหลือ 2.7% จากเดิม 3.2% Goldman Sachs คาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้ GDP โลกจะโตเพียง 1.4% เทียบกับ 3% ปลายปี 2024

สิ่งที่นักวิเคราะห์และ IMF จะจับตาเป็นพิเศษ

• ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ: เคยมีภาวะตึงตัวอย่างหนักเมื่อต้นเดือน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณความเสี่ยงทางการเงิน

• ค่าเงินดอลลาร์: อ่อนค่าหลังทรัมป์ขึ้นภาษี ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ของสหรัฐฯ

• แนวโน้มระยะกลาง: การคาดการณ์ 5 ปีข้างหน้าจาก IMF อาจออกมา “แย่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ” แม้เคยมีความหวังว่าผลิตภาพจะดีขึ้นจาก AI และเทคโนโลยีใหม่

update ความเคลื่อนไหวการเจรจาการค้า

ฝั่งสหรัฐ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า เขาลังเลที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมากไปกว่านี้ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างสองประเทศ โดยขณะนี้สหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีรวมสูงถึง 145% ต่อสินค้าจีน ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยภาษี 125% ต่อสินค้าสหรัฐฯ

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2025 มีความคืบหน้าที่สำคัญ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าเป็นการเจรจาที่ “มีความก้าวหน้าอย่างมาก” หลังพบกับคณะผู้แทนจากญี่ปุ่นที่กรุงวอชิงตัน แม้จะยังไม่มีการยุติภาษีทันที แต่ทั้งสองฝ่ายกำลังเตรียมการสำหรับรอบถัดไปภายในสิ้นเดือนนี้

JD Vance รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางเยือนอินเดียท่ามกลางภาวะสงครามการค้าทั่วโลกที่สหรัฐฯ ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอินเดียจาก 10% เป็น 26% หากไม่มีข้อตกลงภายใน 90 วัน โดยเขามีกำหนดพบกับนายกฯ โมดีเพื่อเจรจาการค้าแบบเจาะรายภาคส่วน พร้อมบทบาทของภรรยา Usha Vance ซึ่งได้รับความสนใจในฐานะสุภาพสตรีอันดับสองเชื้อสายอินเดีย การเยือนครั้งนี้ยังสะท้อนความพยายามของทั้งสองประเทศในการสานต่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการเมือง ท่ามกลางความตึงเครียดจากนโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์

source : Vance Visit to India on Backdrop of Trump’s Global Trade War – Bloomberg

ฝั่งจีน

ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เดินทางเยือนเวียดนามเป็นประเทศแรกของปีนี้ พร้อมเรียกร้องให้เวียดนามร่วมต่อต้าน “การรังแกฝ่ายเดียว” ซึ่งสื่อถึงสหรัฐฯ อย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน เวียดนามแสดงความพยายามรักษาสมดุลความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยต้อนรับผู้นำจีนอย่างอบอุ่น ลงนามข้อตกลงทางเศรษฐกิจ 45 ฉบับ แต่หลีกเลี่ยงการกล่าวถึงถ้อยแถลงของสีในสื่อภาครัฐ เพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับสหรัฐฯ

เวียดนามต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจากการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งกำลังขู่จะขึ้นภาษี 46% หากไม่มีข้อตกลงใหม่ และจากจีนที่พยายามกระชับสัมพันธ์และให้สิทธิพิเศษด้านการค้า เช่น การขยายตลาดและโครงการรถไฟมูลค่า 8.4 พันล้านดอลลาร์

จีนออกแถลงการณ์เตือนประเทศต่าง ๆ ไม่ให้ทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของจีน พร้อมขู่ว่าหากมีการกระทำเช่นนั้น จีนจะตอบโต้ด้วยมาตรการที่เหมาะสม โดยกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ยินดีร่วมมือกับนานาประเทศเพื่อต่อต้านการกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจแต่ฝ่ายเดียว ขณะที่สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อลดบทบาทการผลิตของจีน และป้องกันไม่ให้จีนเลี่ยงภาษี ผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น แรงกดดันให้ประเทศอื่นตั้งภาษีทุติยภูมิหรือปฏิเสธสินค้าส่วนเกินจากจีน

ECB ลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด

คณะกรรมการ ECB มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 อัตราหลักลง 0.25% โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 2.25% ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์หลักที่ 2.40% และดอกเบี้ยกู้ยืมฉุกเฉินที่ 2.65% มีผลตั้งแต่ 23 เม.ย. 2025 การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนการมองว่าอัตราเงินเฟ้อและเงินเฟ้อพื้นฐานกำลังปรับลดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมวดบริการ

ECB ชี้ว่าแรงกดดันจากค่าแรงกำลังผ่อนคลายลง และเศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มมีภูมิคุ้มกันต่อแรงกระแทกจากต่างประเทศมากขึ้น แม้ว่าความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศอาจกระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภคและธุรกิจ ซึ่งจะฉุดการเติบโตในระยะต่อไป

ทั้งนี้ ECB จะยังใช้แนวทางกำหนดนโยบายตามข้อมูลที่เข้ามาแต่ละรอบประชุม และไม่ยึดติดกับเส้นทางดอกเบี้ยแบบตายตัว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อระยะกลางที่ 2% อย่างยั่งยืน

Source: Investing.com ECB Monetary policy decisions

UnitedHealth รายได้ต่ำกว่าคาด

UnitedHealth Group ทำให้นักลงทุนผิดหวัง หลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดต่ำกว่าคาดอย่างรุนแรงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2008 และปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2025 เหลือ $26–$26.50 ต่อหุ้น จากเดิม $29.50–$30 ต่อหุ้น ส่งผลให้หุ้นร่วงกว่า 23% ท่ามกลางแรงขายหนัก สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการแพทย์ที่สูงขึ้นกว่าคาด โดยเฉพาะบริการแพทย์และผู้ป่วยนอก รวมถึงความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ Optum ที่กระทบต่อการเบิกจ่ายในปีหน้า

ซีอีโอแอนดรูว์ วิตตี้ ระบุว่าการเบิกจ่ายจากรัฐบาลต่ำกว่าที่คาด เพราะผู้ป่วยกลุ่มใหม่มีปฏิสัมพันธ์กับระบบสุขภาพต่ำกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งมีแรงกดดันจากนโยบายลดงบ Medicare ของรัฐบาล ซึ่งส่งผลกระทบต่อกลุ่มประกันสุขภาพโดยรวม หุ้นกลุ่มประกันรายอื่นอย่าง Elevance, CVS Health, Cigna, Centene และ Humana ต่างปรับตัวลง 1–6% นักลงทุนหวั่นว่าผลกระทบนี้อาจลามไปยังบริษัทประกันรายอื่นในอนาคตอันใกล้

TSMC แนวโน้มยังดี

TSMC บริษัทผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก ปรับมุมมองธุรกิจเป็นบวกต่อทั้งปี 2025 จากความต้องการชิปด้าน AI ที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่ารายได้จากชิป AI จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว และยังคงประมาณการรายได้ทั้งปีเติบโต 20–30% พร้อมรักษาแผนลงทุนไว้ที่ $38–$42 พันล้าน แม้มีความไม่แน่นอนจากภาษีของสหรัฐฯ และข้อจำกัดส่งออกไปจีน

ซีอีโอ C.C. Wei ระบุว่ายังไม่พบพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปแม้มีข่าวเรื่องภาษี พร้อมยืนยันจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเจรจาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทเพิ่งประกาศลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีก $100 พันล้าน คาดว่าจะมีการผลิตชิป 2 นาโนเมตรและเทคโนโลยีล้ำหน้าอื่น ๆ ในรัฐแอริโซนาราว 30% ของกำลังการผลิตในอนาคต

TSMC ทำกำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2025 ที่ T$361.6 พันล้าน เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้จากจีนลดลงเหลือ 7% ของยอดขายรวม สะท้อนผลกระทบจากมาตรการควบคุมของสหรัฐฯ ส่วนรายได้จากอเมริกาเหนือเพิ่มเป็น 77% ชี้ให้เห็นถึงการปรับพอร์ตลูกค้าไปยังตลาดที่มีเสถียรมากขึ้น

Source: UnitedHealth shares crash after surprise earnings miss, cuts to forecast By Reuters, TSMC upbeat on outlook as robust AI demand offsets tariff uncertainty By Reuters

กองทุน IPO ออกใหม่ และการจัดอันดับกองทุนพักเงินประจำสัปดาห์


จัดอันดับกองทุนพักเงินประเภทตลาดเงินและตราสารหนี้ระยะสั้นโดยเรียงตามผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี

ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ Market Update – Wealth Certified

Disclaimer

ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของเอกสารฉบับนี้ รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการขาดทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น

เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปและไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยปราศจากความเห็นชอบและอนุญาตจากบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด

You cannot copy content of this page