บทความการลงทุนประจำสัปดาห์ระหว่างวันที่ 9 – 13 ตุลาคม 2566
อัปเดทตลาดแรงงานสหรัฐในเดือน ก.ย. GS ลดความน่าสนใจตลาดหุ้นอินเดียลง S&P Global เตือนธุรกิจในประเทศ EM เสี่ยง default และอื่นๆ
Executive Summary
- ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยถูกกดดันจากบอนด์ยีลด์สหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่ากดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก จากความกังวลที่เฟดจะตรึงดอกเบี้ยระดับสูงไปอีกนาน ทั้งนี้ให้นักลงทุนติดตามงบการเงินบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ที่จะทยอยประกาศ ส่วนกลยุทธ์สัปดาห์นี้เรามองว่าตลาดหุ้นโลกเริ่มมี downside จำกัด เป็นโอกาสที่จะทยอยสะสมในหุ้น Global Quality Growth หุ้นเวียดนาม หุ้นจีนและหุ้นไทย
- Special Headlines:
อัปเดทตลาดแรงงานสหรัฐในเดือน ก.ย.
ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
GS ลดความน่าสนใจตลาดหุ้นอินเดียลง
S&P Global เตือนธุรกิจในประเทศ EM เสี่ยง default
อิสราเอลประกาศสงคราม หลังถูกกลุ่มฮามาสโจมตี - เราแนะนำกระจายการลงทุนท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ย higher for longer โดยเน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่สหรัฐในกลุ่ม value และ quality growth ที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีรายได้สม่ำเสมอ อย่าง หุ้นกลุ่ม health care และ technology เป็นต้น และเรามองว่าตลาดหุ้น Asia ex. Japan อย่าง จีน อินเดีย และเวียดนามในช่วงนี้เป็นโอกาสน่าลงทุนสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงยาว เนื่องจาก valuation ของตลาดหุ้นจีนอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนอินเดียและเวียดนามมีการเติบโตในระดับที่สูงตามปัจจัยพื้นฐาน ด้านตลาดหุ้นไทยมองว่ามี downside risk ที่ค่อนข้างจำกัด นักลงทุนสามารถทยอยสะสมลงทุนได้ เรามองว่าเศรษฐกิจไทยจะยังเติบโตได้ในระดับดีหลังจากนี้ จากปัจจัยหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติจะมีพัฒนาการเชิงบวก
Weekly Total Asset Return
ที่มา: Koyfin.com data as of 8 Oct 2023, *Annualized returns
Special Headline: อัปเดทตลาดแรงงานสหรัฐในเดือน ก.ย.
- ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย โดยเพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่ง เป็นระดับที่มากที่สุดในปีนี้ ซึ่งสะท้อนว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่ง รวมถึงความมั่นใจของธุรกิจในเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการบริษัท และเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลือของปี ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าเหตุการณ์คนงานประท้วงในภาคยานยนต์สหรัฐยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวเลขการจ้างงานใน ก.ย. และน่าจะไปส่งผลกระทบของตัวเลขการจ้างงานในเดือน ต.ค.
- ด้านอัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 3.8%ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างแรงงานขยายตัวอย่างปานกลางในระดับ 0.2%MoM และ 4.2%YoY ทั้งนี้หลังจากที่มีรายงานดังกล่าว นักลงทุนได้ขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐออกมาอย่างมากส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 เดือน และทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ราคาน้ำมันดิบ WTI สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเป็นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. โดยปรับตัวลดลงกว่า 9% จากความกังวลเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยในประเทศเศรษฐกิจหลักของโลกที่อยู่ในระดับสูงกดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง รวมถึงสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด นอกจากนี้ราคาน้ำมันถูกกดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
- ทั้งนี้ราคาน้ำมันจะยังคงผันผวนไปจนถึงไตรมาส 1/2024 เนื่องจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันยังคงตึงตัว หลังจากกลุ่ม OPEC+ โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียและรัสเซียประกาศขยายการลดกำลังการผลิตน้ำมันไปจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันทางซาอุดิอาระเบียยังคงต้องการพยุงราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งมองว่าหากราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงบริเวณ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดอาจเห็นทางกลุ่ม OPEC+ ออกมาตรการพยุงราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มเติม
GS ลดความน่าสนใจตลาดหุ้นอินเดียลง
- Goldman Sachs เผยว่า ท่ามกลางความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอยและปัจจัยมหภาค เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง ราคาพลังงานที่สูงและเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ด้าน Valuation ของตลาดหุ้นอินเดียที่อยู่ในระดับค่อนข้างแพง รวมถึงการเลือกตั้งระดับประเทศในปีหน้า ส่งผลให้การลงทุนตลาดหุ้นอินเดียต้องมีความระมัดระวังในระยะ 6-8 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ข้อมูลในเดือน ก.ย. บ่งชี้ว่า นักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นอินเดียราว 2.3 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่ซื้อสุทธิในช่วง 6 เดือนก่อนหน้า
- ด้าน P/E ของดัชนี NSE Nifty 50 Index อยู่ที่ระดับ 18.2 เท่า ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเอเชียหลักๆ และดัชนี Nifty Midcap 100 Index ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 37% นับตั้งแต่เดือน มี.ค. นอกจากนี้ GS ยังระบุว่า ความผันผวนของตลาดหุ้นอินเดียในช่วงนี้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่มันควรจะเป็น เนื่องจากตลาดยังไม่รับรู้ปัจจัยการเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดหุ้นอินเดียในระยะข้างหน้า ขณะเดียวกันผลสำรวจชี้ว่านายโมดี ยังคงได้รับคะแนนความนิยมในระดับที่สูง
S&P Global เตือนธุรกิจในประเทศ EM เสี่ยง default
- S&P Global Ratings บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือยักษ์ใหญ่ของสหรัฐออกมาเตือนว่า ธุรกิจของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือ Emerging Market เสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในระยะข้างหน้า จากภาวะต้นทุนทางการเงินที่สูง โดยมูลค่าหนี้ที่จะครบกำหนดอายุของตลาด EM ซึ่งไม่นับรวมประเทศจีนมีมูลค่าเฉลี่ยที่ 47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024-2027 ขณะที่ในปีนี้มีมูลค่าหนี้ที่ครบกำหนดอายุอยู่ที่ระดับ 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- นอกจากนี้ S&P Global คาดว่าการแข่งขันของบรรดาธุรกิจที่ต้องการระดมทุนเพื่อสภาพคล่องจะเป็นไปอย่างดุเดือดใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งท่ามกลางสภาวะที่ไม่แน่นอนและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่ธุรกิจจะผิดนัดชำระหนี้และล้มละลาย ขณะเดียวกันต้นทุนการกู้ยืมเฉลี่ยในสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับ high-yield EM ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 11.8% ทำระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2022 ทีผ่านมา
อิสราเอลประกาศสงคราม หลังถูกกลุ่มฮามาสโจมตี
- นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล นาย Benjamin Netanyahu ได้ประกาศว่าประเทศเข้าสู่ภาวะสงครามในวันเสาร์ที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังอิสราเอลถูกถล่มด้วยขีปนาวุธนับพันลูกจากฉนวนกาซ่า โดยผู้ก่อการร้าย
กลุ่มฮามาส ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวอิสราเอลมากกว่า 700 ราย และเป็นชาวปาเลสไตน์ราว 400 ราย
ด้านปธน. โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐและปธน. เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อสิทธิ์ของอิสราเอลในการป้องกันประเทศ - ด้านนายกรัฐมนตรีของไทย นายเศรษฐา ทวีสินเผยว่า กองทัพอากาศไทยเตรียมบินไปรับชาวไทยออกจากพื้นที่สงครามในอิสราเอล โดยขณะนี้มีการยืนยันว่ามีคนไทยเสียชีวิตอย่างน้อยจำนวน 2 ราย บาดเจ็บ 8 รายและถูกจับกุมเป็นตัวประกัน 11 ราย ด้านกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า มีคนไทยจำนวน 30,000 คนที่อาศัยอยู่ในอิสราเอล
ที่มา: https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-10-07/rocket-barrage-from-gaza-strikes-israel-several-wounded
https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-10-08/israel-latest-fighting-continues-in-the-south-mortars-in-north
Weekly Recap
US
- ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้นเกือบ 700,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.61 ล้านตำแหน่งในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.8 ล้านตำแหน่ง
- สหรัฐเผยการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ส.ค. สอดคล้องกับตลาดคาด หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือน ก.ค. ขณะเดียวกันผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 68.1 ในเดือน ก.ย. แต่สูงกว่าตลาดคาดที่ 67.7 จากความกังวลเกี่ยวกับการประท้วงในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐและการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ
- WTO หั่นคาดการณ์การค้าโลก เหตุดอกเบี้ยสูงกระทบกำลังซื้อ โดยองค์กรการค้าโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของการค้าโลกในปีนี้สู่ระดับ 0.8% จาก 1.7% ซึ่งเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นทำให้ธนาคารกลางคงดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่คาด ขณะที่ตลาดอสังหาฯ ของจีนที่อ่อนแอและสงครามในยูเครนได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการค้าโลก
- นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 66 โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 34.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมเดือน พ.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 16.4% เมื่อสิ้นเดือน ก.ย. เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่ง
Europe
- หุ้นยุโรปปิดลบต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนี STOXX 50 ถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมนีอายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.922% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี รวมถึงได้รับแรงกดดันจากรายงานกิจกรรมการผลิตของยูโรโซนในเดือน ก.ย. อยู่ในภาวะซบเซา จากอุปสงค์ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง
- อังกฤษเตรียมตรวจสอบ Amazon-Microsoft กังวลผูกขาดตลาดคลาวด์ โดย Ofcom ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลสื่อของอังกฤษวิเคราะห์ว่า ธุรกิจต่างๆ ในอังกฤษเผชิญกับความยากในการเข้าถึงซัพพลายเออร์คลาวด์ที่หลากหลาย จึงจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบอิสระว่าการดำเนินธุรกิจของ Amazon และ Microsoft ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการแข่งขันหรือไม่
- สำนักงานสถิติสหภาพยุโรป (Eurostat) เผยว่า ยอดค้าปลีกของยูโรโซนในเดือน ส.ค. ปรับตัวลง 1.2%MoM และลดลง 2.1%YoY แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง 0.3%MoM และลดลง 1.2%YoY เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงได้กดดันการใช้จ่ายของครัวเรือนในประเทศกลุ่มยูโรโซน
- PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของเยอรมนีขยายตัวในเดือน ก.ย. โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.3 จากระดับ 47.3 ในเดือน ส.ค. โดยตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคบริการมีการขยายตัว ท่ามกลางความกังวลอุปสงค์ที่ยังคงซบเซา เนื่องจากตัวเลขธุรกิจที่จดทะเบียนใหม่ปรับตัวลดลงอย่างมาก
Aisa
- ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 4.7% ในปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ภายนอกและภายในประเทศอ่อนแอลง พร้อมระบุว่า อุปสงค์ภายในประเทศจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตในปีนี้ ด้านอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 3.5% ในปีนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และจะลดลงสู่ 3.0% ในปี 67 ภายใต้ระดับราคาสินค้าและพลังงานที่มีเสถียรภาพ
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับตัวขึ้น 3.7%YoY ในเดือน ก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.4%YoY ในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยได้ปัจจัยหนุนจากราคาพลังงานและสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น
- สำนักงานสถิติเกาหลีใต้เผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 2.2%MoM ในเดือน ส.ค. แข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 2 ปี โดยได้แรงหนุนจากการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้น 13.4%MoM รวมถึงผลผลิตอุปกรณ์เครื่องจักรและรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 9.7%MoM และ 5.7%MoM ตามลำดับ
- ภาคธุรกิจท่องเที่ยวไทยมองเหตุยิงกลางห้างสยามพารากอน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาคการท่องเที่ยวในระยะสั้น โดยคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะหายไปราว 1 ล้านคน กระทบเป้าหมายทั้งปีที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 29-30 ล้านคน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท
Commodities
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปรับตัวลดลงปิดที่ 82.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน และการที่สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันที่ซบเซา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ตุรกีเตรียมเปิดท่อส่งน้ำมันดิบจากอิรักในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ถูกปิดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งช่วยหนุนอุปทานน้ำมันในตลาดโลก
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงที่ $1,831.57 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับเพิ่มขึ้นทำระดับสูงในรอบ 16 ปี จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงที่ยาวนาน ซึ่งกดดันต่อราคาทองคำ
- ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าปิดที่ 36.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 11 เดือน โดยตลาดยังกังวลว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า รวมถึงตลาดมองว่าผลกระทบของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ที่จะทยอยออกมา จะส่งผลให้เงินเฟ้อไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น
ความเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่มา: Tradingview.com as of 9 October 2023
จัดอันดับกองทุนพักเงิน
ที่มา: AspenRTD, data as of 8 October 2023
หมายเหตุ: ข้อมูลการจัดอันดับกองทุนเป็นเพียงข้อมูลหนึ่งที่ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
โดยรายละเอียดแผนการลงทุนและกองทุนที่แนะนำให้กับลูกค้าจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับระดับการยอมรับความเสี่ยง ผลตอบแทนคาดหวัง ข้อจำกัดในการลงทุนของแต่ละบุคคล และเรามีการคัดเลือกและวิเคราะห์กองทุนที่เหมาะกับวัตถุประสงค์การลงทุนของแต่ละบุคคล
โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ติดต่อทีมงานฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน เพื่อสอบถามรายละเอียดและคำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมกับท่าน ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 02-026-6875 หรือ อีเมลล์ investment@wealthcertified.co.th
Wealth Certified Investment Team
นาย พันเลิศ เจริญสวรรค์ : นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ ผู้วางแผนการลงทุน
นาย กรวิชญ์ สำเภาสงฆ์ : ผู้วางแผนการลงทุน
อ่านบทความย้อนหลังได้ที่
https://wealthcertified.co.th/wcia-weekly-highlight-25-september-2023/
https://wealthcertified.co.th/market-update/