บทความการลงทุนประจำสัปดาห์ระหว่างวันที่ 08 – 12 มกราคม 2567
อัปเดทตลาดจ้างงานสหรัฐ Zhongzhi ยื่นล้มละลาย อัปเดทข้อมูลเศรษฐกิจจีนและข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ
Executive Summary
- ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ด้านหุ้น Apple ปรับตัวลดลงหลังนักวิเคราะห์แห่งหนึ่งปรับลดความน่าสนใจในการลงทุนลง ขณะเดียวกันนักลงทุนกังวลว่า เฟดอาจคงดอกเบี้ยระดับสูงนานกว่าที่คาด หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ธ.ค. ออกมาสูงกว่าคาด
- Special Headlines:
อัปเดทตลาดจ้างงานสหรัฐ
Zhongzhi ยื่นล้มละลาย
อัปเดทข้อมูลเศรษฐกิจจีน - มุมมอง:เราแนะนำกระจายการลงทุนท่ามกลางตลาดที่ยังคงผันผวน จากปัจจัยกดดันหลายส่วน โดยเน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่สหรัฐในกลุ่ม value และ quality growth ที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีรายได้สม่ำเสมอ อย่าง หุ้นกลุ่ม health care technology และ Industrial เป็นต้น และเรามองว่าตลาดหุ้น Asia ex. Japan และเวียดนามในช่วงนี้เป็นโอกาสน่าลงทุนสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงยาว เนื่องจาก valuation ของตลาดอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนมีการเติบโตในระดับที่สูงตามปัจจัยพื้นฐาน ด้านตลาดหุ้นไทยมองว่ามี downside risk ที่ค่อนข้างจำกัด นักลงทุนสามารถทยอยสะสมลงทุนได้ คาดว่าจะเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติจะมีพัฒนาการเชิงบวกหลังจากนี้
Weekly Total Asset Return
ที่มา: Koyfin.com data as of 7 Jan 2023, *Annualized returns
อัปเดทตลาดจ้างงานสหรัฐ
- สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาดที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นจากระดับ 173,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. ด้านอัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.8% และค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.4%MoM และ 4.1%YoY ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวถือว่ายังคงแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าจะเห็นสัญญาณที่ผ่อนคลายลง ซึ่งทำให้การบริโภคและเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวต่อไปได้ ขณะที่เงินเฟ้อชะลอตัวต่อเนื่อง
- ด้านตลาดกังวลว่าค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นตัวสะท้อนจากอุปสงค์และอุปทานแรงงานในตลาด ที่บ่งชี้ว่าอุปสงค์แรงงานยังคงตึงตัว อาจทำให้เฟดคงดอกเบี้ยระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาด
ที่มา: Bloomberg และ Standard Chartered
Zhongzhi ยื่นล้มละลาย
- Shadow banking ยักษ์ใหญ่ของจีน Zhongzhi Enterprise Group Co. ยื่นหนังสือล้มละลาย หลังจากบริษัทไม่สามารถชำระหนี้ให้กับนักลงทุนได้ คิดเป็นมูลค่า 4.6 แสนล้านหยวน หรือ 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน อุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ และมูลค่าการซื้อขายรายวันในตลาดหุ้นที่ซบเซา กดดัน sentiment การลงทุนและการบริโภคในประเทศ ขณะเดียวกันตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 3
- อย่างไรก็ตามเจ้าหนี้ของบริษัทส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายใหญ่มากกว่าสถาบันการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบการเงินเป็นไปอย่างจำกัดมากกว่า อย่างไรก็ตามข่าวดังกล่าวถือเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องระมัดระวังและเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตในตลาด Global Private Credit ซึ่งขาดการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นสาธารณะ ทั้งนี้ทรัสต์และบริษัทอสังหาฯ จีนในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดการผิดนัดชำระหนี้และขอยื่นปรับโครงสร้างหนี้ อาทิ HNA Group Co., และ China Evergrande เป็นต้น
ที่มา: Bloomberg
อัปเดทข้อมูลเศรษฐกิจจีน
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการจีนเดือน พ.ย. จากผลสำรวจไฉซิ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 52.9 ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 51.6 และทำระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ด้านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นระดับ 50.8 แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. และสูงกว่าตลาดคาด ขณะเดียวกันข้อมูลบ่งชี้ว่า ธุรกิจจีนขนาดเล็ก-กลางมีพัฒนาการเชิงบวกที่ดีกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามผลรายงานเชิงบวกนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะหนุน sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นจีนสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
- ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปีปรับตัวลง 2.54% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2020 เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ที่มา: Bloomberg
Weekly Recap
US
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงล่าสุด 18,000 ราย สู่ระดับ 202,000 ราย ต่ำกว่าตลาดคาดที่ระดับ 219,000 ราย ด้านจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องคงค้าง 31,000 ราย สู่ระดับ 1.85 ล้านราย
- สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 62,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.790 ล้านตำแหน่งในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2564 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 8.850 ล้านตำแหน่ง
- อีพิก เอเอซีอีอาร์ (Epiq AACER) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านการล้มละลายเผยว่า ยอดการยื่นขอล้มละลายทั้งในระดับผู้ประกอบการและบุคคลในสหรัฐเพิ่มขึ้น 18%YoY แตะ 445,186 รายในปี 2566 จาก 378,390 รายในปี 2565 ถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น และการทยอยสิ้นสุดลงของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19
- สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 47.4 ในเดือน ธ.ค. จากระดับ 46.7 ในเดือน พ.ย. สูงกว่าตลาดคาดการร์ที่ระดับ 47.2 ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวลง อย่างไรก็ดีดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่
Europe
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของเยอรมนีอยู่ระดับ 43.3 ในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 42.6 ในเดือน พ.ย. แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว ด้านยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. ปรับตัวลง 2.5%MoM และต่ำกว่าคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลง 0.1%MoM
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ PMI ภาคผลิต-บริการยูโรโซนทรงตัวในเดือน ธ.ค. 66 ซึ่งวัดภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 47.6 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน พ.ย. บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคบริการ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของยูโรโซน และมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจในภูมิภาคเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของอังกฤษเดือน ธ.ค. จากเอสแอนด์พี โกลบอลและซีไอพีเอสอยู่ระดับ 46.2 ลดลงจากระดับ 47.2 ในเดือน พ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 46.4 ทั้งนี้ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษหดตัวมาแล้วเป็นเดือนที่ 17 จากผลกระทบของต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น
- ตลาดหุ้นยุโรปสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดดันจากราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลดลง หลังหุ้น ASML ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์ชิปคอมพิวเตอร์ปรับตัวลง 2.6% หลังรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยกเลิกใบอนุญาตส่งออกเครื่องจักรบางชนิดของบริษัทให้กับจีน และจากปัจจัยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้น
Asia
- ผลสำรวจภาคเอกชนซึ่งจัดทำโดยไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอล เซอร์วิสเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.9 ในเดือน ธ.ค. จาก 51.5 ในเดือน พ.ย. บ่งชี้ว่า ภาคบริการมีการขยายตัว และเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. เนื่อจากผู้บริโภคที่การใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของไทยเดือน ธ.ค. 66 ลดลง 0.83%YoY ต่ำสุดในรอบ 34 เดือนขณะที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.35-0.40%YoY ส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปของปี 66 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.23% ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เพิ่มขึ้น 0.58%YoY โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน รวมทั้งราคาอาหารที่ลดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้เงินเฟ้อของไทยยังคงต่ำที่สุดในอาเซียนจาก 7 ประเทศ
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของญี่ปุ่นลดลงสู่ระดับ 47.9 ในเดือน ธ.ค. จาก 48.3 ในเดือน พ.ย. ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ และหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 เนื่องจากอุปสงค์ในจีน ยุโรป และอเมริกาเหนือปรับตัวลง โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจที่มีความสำคัญ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ขณะเดียวกันมีปัจจัยกดดันด้านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเงินเฟ้อด้านต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
- นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเดินทางเยือนและหารือกับผู้บริหารบริษัทพัฒนาชิปหน่วยความจำระดับแนวหน้าของประเทศ ได้แก่บริษัท Yangtze Memory Technologies Co. ที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตร และบริษัท Wuhan Huagong Laser Engineering Co. นับเป็นความพยายามของรัฐบาลที่ส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยี ท่ามกลางการแข่งขันด้านเทคโนโลยีของ 2 ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ คือสหรัฐและจีน
Commodities
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้แรงหนุนจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลสังหารผู้นำเบอร์ 3 ของกลุ่มฮามาส ซึ่งอาจทำให้สงครามขยายวงกว้าง และอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบ
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงปิดระดับ 2,045 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น และเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือน ธ.ค. สูงกว่าที่ตลาดคาด
- ค่าเงินบาทอ่อนค่าปิดบริเวณ 34.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าตามบอนด์ยีลด์สหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐเดือน ธ.ค. ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด
ความเคลื่อนไหวหุ้นสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่มา: Tradingview.com as of 8 January 2024
อัปเดทกองทุนพักเงิน
ที่มา: AspenRTD, data as of 7 January 2023
หมายเหตุ: ข้อมูลการจัดอันดับกองทุนเป็นเพียงข้อมูลหนึ่งที่ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
โดยรายละเอียดกองทุนที่แนะนำให้กับลูกค้าจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับระดับการยอมรับความเสี่ยง ผลตอบแทนคาดหวัง ข้อจำกัดในการลงทุนของแต่ละบุคคล และเรามีการคัดเลือกและวิเคราะห์กองทุนที่เหมาะกับวัตถุประสงค์การลงทุนของแต่ละบุคคล
โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ติดต่อทีมงานฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน เพื่อสอบถามรายละเอียดและคำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมกับท่าน ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 02-026-6875 หรือ อีเมลล์ investment@wealthcertified.co.th
Wealth Certified Investment Team
นาย พันเลิศ เจริญสวรรค์ : นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ ผู้วางแผนการลงทุน
นาย กรวิชญ์ สำเภาสงฆ์ : นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน ผู้วางแผนการลงทุน
อ่านบทความย้อนหลัง
https://wealthcertified.co.th/wcia-weekly-highlight-25-december-2023/