ไทย ENG

CONTACT US
0-2026-6875

Wealth Certified Cover

WCIA Weekly Highlight 19 December

19/12/2022

WCIA Weekly บทความการลงทุนประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 19 – 23 ธันวาคม 2565 ติดตามตลาดหลังธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยเป้าหมายระดับ 5.1% ปีหน้า

WCIA Key Takeaways

  • ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง หลังเฟดส่งสัญญาณจะยังคงใช้นโยบายการเงินเข้มงวดตลอดปี 66 ขณะเดียวกัน Dot Plot เดือน ธ.ค. รายงานอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายเพิ่มขึ้นที่ระดับ 5.1% สร้างความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น
  • Special Headlines: ผลการประชุมเฟดเดือน ธ.ค. และอัปเดทภาพรวมเศรษฐกิจจีน
  • Technical: ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ย่อตัวลงในสัปดาห์ก่อน คาดว่าสัปดาห์นี้จะมีการย่อตัวต่อ เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่มาหนุนตลาดและนักลงทุนต่างชาติเริ่มหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้านดัชนี CSI300 และ VN 30 ทยอยสะสมในช่วงตลาดย่อตัวได้ หุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600 – 1,650 จุด ตลาดอินโดนีเซียมีแนวโน้มเคลื่อนไหว sideway ทองคำยังมองแนวโน้มบวกทยอยสะสมได้ ราคาน้ำมันทยอยสะสมหรือเก็งกำไรได้ จุดคัทที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้: เรามองว่านักลงทุนมีโอกาสปรับพอร์ตต่อในช่วงสัปดาห์นี้ โดยจากแนวโน้มการประชุม FED และ Bond yield น่าจะทำให้ดัชนีมี Downside ก่อนที่การซื้อขายจะเบาบางลงเพื่อเตรียมหยุดสิ้นปี จึงแนะนำรักษาระดับการลงทุนตามสัดส่วนที่แนะนำ
  • ดัชนีที่ปรับตัว Outperform ในช่วงปีนี้ เช่น กลุ่มน้ำมัน ตลาหุ้นอินเดีย ญี่ปุ่น ยุโรป  กำลังถูกแรงปรับพอร์ตระยะสั้น ให้ระมัดระวังในช่วงสิ้นปี 
  • กองทุนแนะนำให้ทยอยสะสมเพื่อการลงทุนยาว: Global EQ (tech), China EQ, Vietnam EQ

Performance ของแต่ละสินทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา

Source: Koyfin.com data as of 18 Dec 2022, *Annualized returns
Source: Koyfin.com data as of 18 Dec 2022, *Annualized returns

Special Headlines : ผลการประชุมเฟดเดือน ธ.ค.

คณะกรรมการเฟด (FOMC) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ และเป็นการลดอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากที่มีการปรับขึ้น 0.75% ในการประชุม 4 ครั้งติดต่อกันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามตลาดกังวลหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเนื่องจากยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วงขาลงอย่างยั่งยืน และจะกดเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายของเฟดที่ 2%

ด้านรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุด (Terminal rate) สู่ระดับ 5.1% ภายในปี 2566 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมของตลาด และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2550 ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะเดียวกันตลาดไม่ได้เห็นด้วยกับดอกเบี้ยเป้าหมายของเฟดตามที่ Dot Plot รายงาน จะเห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ซึ่งเป็นตัวสะท้อนถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในอนาคตไม่ได้ปรับตัวขึ้นตาม เพราะตลาดไม่เชื่อว่าเฟดจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงระดับดังกล่าวได้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เปราะบางและเชื่อว่าเงินเฟ้อจะคลายตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า ซึ่งมองว่าตลาดหุ้นต่อจากนี้ไปจนถึงปลายไตรมาส 1/66 จะยังคงมีความผันผวนกับความไม่แน่นอนของนโยบายการเงิน โดยหลังจากนี้นักลงทุนจะต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบเพื่อประเมินภาวะตลาดในระยะถัดไป

Source : Bloomberg
ติดตามอ่านเพิ่มเติมที่ Powell Says Fed Still Has a ‘Ways to Go’ After Half-Point Hike – Bloomberg

Stock Market Today: Dow, S&P Live Updates for Dec. 15 – Bloomberg

อัปเดทภาพรวมเศรษฐกิจจีน

สัญญาณเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ทั้งกิจกรรมของภาคธุรกิจและผู้บริโภคลดลงสู่ระดับที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่การปิดเมืองเซี่ยงไฮ้ในเดือน มี.ค. – พ.ค. โดยยอดค้าปลีกและยอดขายบ้านลดลง ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนชะลอตัวลงอย่างมาก การว่างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแรงงานที่เปราะบางที่สุดของประเทศ และคาดว่าอัตราการว่างงานในจีนจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 5.6% จากที่ค้างอยู่ที่ระดับ 5.5% มา 2 เดือนก่อนหน้านี้และเป็นอัตราที่ทางการจีนตั้งกำหนดไว้ในปีนี้ ด้านการส่งออกหดตัวเกือบ 9%YoY ในเดือน พ.ย.  ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 63

คาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจจีนไตรมาส 4/65 จะออกมาอ่อนแอกว่าไตรมาส 3/65 และตลาดหุ้นจีนอาจสะท้อนต่อข้อมูลดังกล่าวในช่วงไตรมาส 1/66 อย่างไรก็ตามตลาดยังมีมุมมองไปในทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจจีนในปีหน้าจะดีขึ้น จากการคาดการณ์ว่าประเทศจะเปิดประเทศ ความกังวลในภาคอสังหาริมทรัพย์ผ่อนคลายลง และผู้กำหนดนโยบายเปลี่ยนความสนใจจากการควบคุมโควิดมาใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งตลาดมองเรื่องอัตราเงินเฟ้อของจีนในมุมมองเชิงบวกกว่าหลายประเทศ

Source : Bloomberg
China Economic Activity Slumps With More Disruption to Come – Bloomberg

China’s Economy Likely Worsened Before Abrupt Covid Policy Shift – Bloomberg

WCIA Weekly Recap

สหรัฐ : เริ่มเห็นสัญญาณการบริโภคของเอกชนชะลอตัวลงชัดเจน

  • เฟดปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ปีนี้ ขณะที่ลดคาดการณ์อัตราว่างงาน โดยเฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัว 0.5% ในช่วงสิ้นปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 0.2% แต่ปรับลดคาดการณ์ในปี 66 สู่ระดับ 0.5% จากเดิมที่ระดับ 1.2% และคาดว่าอัตราว่างงานจะแตะระดับ 3.7% ในสิ้นปีนี้ ลดลงจากเดิมที่ระดับ 3.8% และเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% ในปี 66 ด้านดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือน พ.ย. ขยายตัว 7.1% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดว่าจะขยายตัว 7.3% บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ด้านดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือน พ.ย. ต่ำกว่าคาดที่ 6.1%
  • เฟดเผยแบบจำลอง GDPNow บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.8% ในไตรมาส 4/65 โดยเฟด สาขาแอตแลนตา เผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.8% ในไตรมาส 4/65 โดยต่ำกว่าระดับ 3.2% ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ และจะเผยการคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในที่ 20 ธ.ค. 65
  • สหรัฐฯ เผยยอดค้าปลีกลดลงมากกว่าคาดในเดือน พ.ย. โดยยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 0.6% ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 11 เดือน ขณะที่ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลง 0.1% หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือน ต.ค. โดยได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ ขณะที่เงินออมของครัวเรือนลดลง ท่ามกลางแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
  • เยลเลนคาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวลงชัดเจนปีหน้า มั่นใจเศรษฐกิจเลี่ยงภาวะถดถอยได้ โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เผยว่า ยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัว จากที่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งและการจ้างงานก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งทำให้ประชาชนมีงานทำอีกครั้งและคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างมากภายในสิ้นปี 2566

ยุโรป: วิกฤตเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงยังบั่นทอน Sentiment การลงทุน

  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. ส่งผลให้อัตราอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 2.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 51 ขณะเดียวกัน ECB จะเริ่มทำการปรับลดงบดุลในวงเงิน 1.5 หมื่นล้านยูโร/เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 66 จนสิ้นสุดไตรมาส 2/66
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 3.50% ตามที่ตลาดคาด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน อีกทั้งตลาดคาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในไตรมาสแรกของปี 66 และอีก 0.25% ในไตรมาส 2/66 สู่ระดับสูงสุดที่ 4.25%
  • รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. ของอังกฤษปรับตัวลดลงอย่างผิดคาดกับที่ตลาดคาดการณ์ โดยลดลง 0.4%MoM ขณะที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%MoM แสดงถึงแรงกดดันในใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ท่ามกลางวิกฤตเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นสูง
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นที่ -23.3 ในเดือน ธ.ค. สูงกว่าคาดที่ -26.4 จาก -36.7 ในเดือน พ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและวิกฤตพลังงาน แต่ดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่า 0 แสดงถึงความไม่เชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

เอเชีย : จีนเริ่มส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจจริงจัง

  • รองนายกรัฐมนตรีจีนได้ออกมาระบุว่า มาตรการใหม่เหล่านี้จะช่วยพัฒนาภาวะทางการเงินของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และส่งเสริมความเชื่อมั่น และมองว่าความกังวลของอุปสงค์ที่อยู่อาศัยอ่อนแอในจีนขณะนี้ ยังไม่ทำให้ตลาดเกิดภาวะตกต่ำในระยะยาว
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 4/65 ปรับตัวลงที่ระดับ 7 ลดลงจากระดับ 8 ในไตรมาส 3/65 จากผลกระทบของต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 65 ขึ้นสู่ระดับ 3.2% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.9% และลดคาดการณ์การขยายตัวปี 66 ลงเหลือ 4.0% จาก 4.2% ด้านเงินเฟ้อปีนี้มีแนวโน้มอยู่ที่ 6.3% และ 2.7% ในปีหน้า โดยเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอลง โดยกิจกรรมภาคการผลิตของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียกำลังสูญเสียแรงผลักดัน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 65 ขึ้นสู่ระดับ 7.5% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6.5% และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวปี 66 เหลือ 6.3% จาก 6.7% โดยระบุว่า แม้ว่าการค้าจะยังคงขยายตัวแต่สัญญาณบ่งชี้ว่าความต้องการสินค้าส่งออกจากเวียดนามมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะความต้องการจากหลายประเทศที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเวียดนาม ด้านเงินเฟ้อในปี 65 คาดว่าอยู่ที่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.8%

สินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากคาดการณ์อุปทานยังตึงตัว

  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดตลาดที่ 74.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่า การผลิตน้ำมันของรัสเซียจะลดลง 14% ในช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปี 2566 ซึ่งหากเป็นไปตามคาด จะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันตลาดก็กังวลเศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย จากการเดินหน้าใช้นโยบายการเงินเข้มงวดของเฟดในปีหน้า
  • TC Energy บริษัทพลังงานของแคนาดาเผยแถลงว่า ยังคงซ่อมแซมรอยรั่วของท่อส่งน้ำมัน Keystone คาดว่าจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ และปัญหาดังกล่าวจะส่งผลให้สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง
  • รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมซื้อน้ำมัน 3 ล้านบาร์เรลนำเข้าสู่คลังสำรอง SPR หลังจากที่ระบายน้ำมัน 180 ล้านบาร์เรล ทำให้สต็อกน้ำมันใน SPR แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2527 เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันในประเทศที่เพิ่มขึ้นสูง
  • ราคาทองคำทรงตัวปิดที่ $1,793.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลต่อการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด และความกังวลต่อค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่ากดดันราคาทองคำ
  • ค่าเงินบาทแข็งค่าปิดตลาดที่ 34.82 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากเป็นผลของ Fund flow ที่เข้ามาทำกำไรในช่วงใกล้สิ้นปี ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังมีทิศทางแข็งค่า อย่างไรก็ดีในภาพรวมตลาดยังมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจหนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า

ความเคลื่อนไหวหุ้นสหรัฐในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

Source: TradingView 18 Dec 2022

จัดอันดับกองทุนพักเงิน

Source : AspenRTD data as of 18 DEC 2022
หมายเหตุ: ข้อมูลการจัดอันดับกองทุนเป็นเพียงข้อมูลหนึ่งที่ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงสัปดาห์นี้

เริ่มเห็นการพักตัวของดัชนีต่างๆในสัปดาห์ที่ผ่านมาตามที่คาดการณ์ โดยเฉพาะดัชนีที่ปรับตัว Outperform ในช่วงปีนี้ เช่น กลุ่มน้ำมัน ตลาหุ้นอินเดีย ญี่ปุ่น ยุโรป  กำลังถูกแรงปรับพอร์ตระยะสั้น ให้ระมัดระวังในช่วงสิ้นปีนี้ 

เรามองว่านักลงทุนมีโอกาสปรับพอร์ตต่อในช่วงสัปดาห์นี้ ในโดยจากแนวโน้มการประชุม FED และ Bond yield น่าจะทำให้ดัชนีมี Downside ก่อนที่การซื้อขายจะเบาบางลงเพื่อเตรียมหยุดสิ้นปี จึงแนะนำรักษาระดับการลงทุนตามสัดส่วนที่แนะนำ

กองทุนแนะนำให้ทยอยสะสมเพื่อการลงทุนยาว
Global EQ (tech), China EQ, Vietnam EQ, ทองคำ

Aggressive Allocation สำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง

Wealth Certified Investment Team

นาย พันเลิศ เจริญสวรรค์ : นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ ผู้วางแผนการลงทุน

นาย กรวิชญ์ สำเภาสงฆ์ : ผู้วางแผนการลงทุน

อ่านบทความย้อนหลังได้ที่

WCIA Weekly Highlight 13 December – Wealth Certified

WCIA Weekly Highlight – Wealth Certified

Disclaimer: ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน ของเอกสารฉบับนี้รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ได้ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการลงทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น

เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปและไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมดโดยปราศจากความเห็นชอบและอนุญาตจากบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด

You cannot copy content of this page