ไทย ENG

CONTACT US
0-2026-6875

Monthly Insight ประจำเดือนพฤศจิกายน

04/11/2024

Executive Summary

Market Performance : ตลาดหุ้นทั่วโลกโดยรวมเคลื่อนไหวในแดนลบในเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน ฮ่องกงที่มีแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นแรงในช่วงปลายเดือนกันยายน และถูกขายหลังวันหยุดวันชาติ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับบวกเล็กน้อยจากการรายงานผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด ส่วนทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับหุ้นจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

Special Headlines:

  • Update การเลือกตั้งสหรัฐทราบผลเช้าวันพุธนี้
  • ตลาดคาดว่า FED จะลดดอกเบี้ย 0.25% คืนวันพฤหัส
  • ผลประกอบการไตรมาส3 ที่น่าจับตา

Economics Calendar :  เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และ FOMC

IPO : Term Fund พันธบัตรรัฐบาลไทย และต่างประเทศ  กองทุน Private Equity

Fund Ranking: การจัดอันดับกองทุนพักเงินPortfolio Recommendation เดือนพฤศจิกายน : Update กองทุนแนะนำ

การเลือกตั้งสหรัฐทราบผลพุธนี้

ผลกระทบต่อหุ้นหากแฮร์ริสชนะ


270toWin – 2024 Presidential Election Interactive Map

หากแฮร์ริสชนะ ตลาดหุ้นอาจยังคงเติบโตเช่นเดียวกับในสมัยของไบเดน แต่การขึ้นภาษีบริษัทและการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นอาจทำให้การเติบโตของหุ้นช้าลง โดยมีเป้าหมายจะขึ้นภาษีเป็น 28% (ปัจจุบัน 21%) ซึ่งอาจลดกำไรของบริษัทและชะลอตลาด ส่วนภาคพลังงานหมุนเวียนจะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนของแฮร์ริส

ผลกระทบต่อหุ้นหากทรัมป์ชนะ

ทรัมป์สัญญาจะขยายการลดภาษีสำหรับบริษัทและผลักดันการลดกฎระเบียบ ซึ่งการผสมผสานระหว่างภาษีที่ต่ำและกฎระเบียบที่น้อยลงจะช่วยเพิ่มผลกำไรและหนุนราคาหุ้น โดยเฉพาะภาคน้ำมัน ก๊าซ และปัญญาประดิษฐ์ ในขณะที่ภาคพลังงานหมุนเวียนอาจได้รับผลกระทบหากทรัมป์ลดสิทธิประโยชน์ที่สนับสนุนภายใต้รัฐบาลไบเดน อย่างไรก็ตาม นโยบายภาษีนำเข้าที่สูงถึง 20% (จีน 60%) และการขาดแคลนแรงงานที่อาจเกิดขึ้นจากการเนรเทศแรงงานต่างชาติ อาจส่งผลลบต่อตลาด

ตลาดมั่นใจว่า FED จะลดดอกเบี้ย 0.25% คืนวันพฤหัสนี้

ตลาดพันธบัตรสะท้อนว่าการลดดอกเบี้ยของ FOMC จะน้อยกว่าที่เคยประเมินไว้ในเดือนก่อนหน้า โดย Yield พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 1-2 ปีจะอยู่แถว 4.2% หรือหมายความว่า มีโอกาสที่ FED จะลดดอกเบี้ยลงอีกเพียง 2-3 ครั้ง (0.50-0.75%) เท่านั้น

https://www.cmegroup.com/markets/interest-rates/cme-fedwatch-tool.html

การประกาศงบไตรมาส3ที่สำคัญ

ตลาดหุ้นโดยรวมเผชิญการขาดทุนในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากผลประกอบการที่ผสมผสานจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ แม้ว่าผลประกอบการไตรมาสเดือนกันยายนจะดีกว่าคาด แต่แนวโน้มที่ซบเซาจากบริษัทรายใหญ่เช่น Microsoft และ Apple รวมถึงการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้กดดันหุ้นเทคโนโลยี

เงินสดสำรองของ Berkshire Hathaway แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 325.2 พันล้านดอลลาร์ในQ3 หลังจากที่บริษัทของวอร์เรน บัฟเฟตต์ลดการถือหุ้นใน Apple ลดลงประมาณ 25% แม้ว่าบริษัทจะมีเงินสดสำรองจำนวนมาก แต่กำไรจากการดำเนินงานก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

จัดอันดับกองทุนพักเงิน

ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://wealthcertified.co.th/market-update/

Disclaimer

ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของเอกสารฉบับนี้ รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

     ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการขาดทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น

     เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปและไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยปราศจากความเห็นชอบและอนุญาตจากบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด

You cannot copy content of this page