ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวจากกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับ AI โดยเฉพาะหุ้นที่อยู่ใน supply chain Ai Google หลังตลาดเริ่มปรับมุมมองธุรกิจ Ai ที่มีโอกาสและโครงสร้างการทำกำไรที่แข็งแกร่งมากกว่า Ai ที่ฉลาดแต่ใช้เงินลงทุนมากเกินไป และโอกาศในการลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นหลังตัวเลขตลาดแรงงานยังสนับสนุนให้เกิดการลดดอกเบี้ยได้ ขณะที่ประธานเฟดสาขานิวยอร์กให้ความเห็นว่าเฟดยังลดดอกเบี้ยได้อีกมาก สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงช่วงสั้นก่อนจะเข้าสู้โหมดระมัดระวัง โดยในสัปดาห์นี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯที่ตลาดจับตาดูอย่างใกล้ชิด ประกอบกับการแถลงการณ์ของเจอโรม พาวเวล ที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ส่วนทางด้านตลาดเงินดอลลาร์ทรงตัวแนวโน้มอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอาทิตย์ก่อน ขณะที่ทองคำปรับขึ้นจากความคาดหวังลดดอกเบี้ยและความเสี่ยงที่นักลงทุนยังให้น้ำหนักอยู่


ค่า PE ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง หลังความไม่แน่นอนการลดดอกเบี้ย Bond Yield หลายประเทศปรับตัวทรงตัวในระดับเดิม ขณะที่ราคาปรับตัวลดลงทำให้ Earning Yield Gap โดยรวมมีแนวโน้มกว้างกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา
Special Headline News overview from last week


ภาพรวมดัชนี S&P500 เริ่มฟื้นตัวหลังจากความไม่แน่นอนการลดดอกเบี้ยกดดันตลาด โดยปัจจัยหลักคือการแถลงการณ์ของประธานเฟด สาขานิวยอร์กแถลงบอกถึงโอกาสลดดอกเบี้ยของเฟดยังสามารถลดดอกเบี้ยได้อีกมาก
โดยภาพสัญญานในตลาดเงินอย่าง BTC และ ดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่คล้ายกับปีก่อนๆได้อยู่ 2 กรณี คือ
1. BTC กลับตัวขึ้นตามตลาดและหุ้นเกิดการปรับตัวขึ้นพร้อมกัน โดยดอลลาร์อ่อนค่าก่อนจะแข็งค่าขึ้นตามกรณีนี้มีโอกาสที่ตลาดจะจบรอบและเกิดการพักตัว แต่เป็นโอกาสให้นักลงทุนทำกำไรได้อย่างน้อย6-12เดือนก่อนปรับลง
2. BTC ปรับตัวลดลงต่อเนื่องและตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวลดลงตาม โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โอกาสที่ตลาดจะจบรอบทันที
MicroStrategy CEO says if this happens, the company will sell Bitcoin

BTC ในระยะสั้นหลังจากมีประเด็นการทุบของรายใหญ่และการปิด Position Long จนเกิด short squeeze ปัจจุบันกราฟระยะสั้นเริ่มยืนได้ แต่ยังถูกกดดันต่อเนื่องจากกระแส Deleveraging BTC จากข่าว Phong Le (CEO ของ Strategy หรือชื่อเดิม MicroStrategy) ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2025 ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดในช่วงเวลานั้นที่ราคาหุ้นของบริษัทเริ่มเทรดต่ำกว่ามูลค่า Bitcoin ที่ถืออยู่ (mNAV < 1)
เพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวม ผมสรุปสาระสำคัญให้ดังนี้ครับ:
1. เงื่อนไขที่จะทำให้บริษัท “ยอมขาย Bitcoin”
CEO ระบุไว้ชัดเจนว่าต้องเกิด 2 เงื่อนไขนี้ พร้อมกัน เท่านั้น ถึงจะพิจารณาขาย:
เงื่อนไขที่ 1: mNAV ต่ำกว่า 1 (Market Value < Net Asset Value)
หมายถึง ราคาหุ้นของบริษัท (Strategy) มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่า Bitcoin ทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่
ปกติบริษัทจะเทรดที่ “Premium” (mNAV > 1) คือราคาหุ้นแพงกว่า Bitcoin ที่ถือ ทำให้บริษัทสามารถขายหุ้นแพงๆ เพื่อไปซื้อ Bitcoin เพิ่มได้เรื่อยๆ (เหมือนพิมพ์เงินฟรี)
แต่ถ้า mNAV < 1 กลไกนี้จะพังทันที เพราะยิ่งขายหุ้น บริษัทจะยิ่งขาดทุนเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่มี
เงื่อนไขที่ 2: ไม่สามารถระดมทุนได้ (Inability to raise capital)
ถ้าบริษัทมีหนี้ต้องจ่าย หรือต้องจ่ายเงินปันผล แต่ไม่สามารถออกหุ้นกู้ หรือขายหุ้นเพิ่มทุนได้ (เพราะ mNAV < 1 ตลาดไม่เอาด้วย)
เมื่อไม่มีเงินสดมาหมุนจ่ายภาระผูกพัน “ทางเลือกสุดท้าย” คือต้องเฉือนเนื้อตัวเอง (ขาย Bitcoin) ออกมาจ่ายครับ

OPEC+ meeting maintains
OPEC+ มีมติคงระดับการผลิตน้ำมันไว้เท่าเดิมในไตรมาสแรกของปี 2026 แทนที่จะปรับเพิ่มกำลังผลิตตามแผนเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากภาวะอุปทานล้นตลาดโลก
ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นทันทีหลังการประชุม โดยน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ซื้อขายพุ่งขึ้นราว 1.5% และน้ำมันดิบ WTI ก็ปรับขึ้นใกล้เคียงกัน
การตัดสินใจคงกำลังผลิตสะท้อนว่า OPEC+ กำลังให้ความสำคัญกับ “ความสมดุลของตลาด” และการควบคุมอุปทานให้เหมาะสมมากกว่าการเร่งทวงคืนส่วนแบ่งตลาดในช่วงนี้
ในการประชุมเดียวกัน กลุ่มยังกำหนดกลไกสำหรับ “ประเมินขีดความสามารถสูงสุด (maximum sustainable capacity)” ของสมาชิก เพื่อใช้เป็นกรอบอ้างอิงสำหรับโควตาการผลิตในปี 2027 ซึ่งจะมีกระบวนการประเมินในช่วงต้นปีหน้า
OPEC+ กำลังอยู่ในภาวะ “dilemma” — คือ แม้พวกเขาจะควรเริ่มปลดล็อกการจำกัดการผลิต (unwind production caps) ตามแผนเดิม แต่ด้วยภาวะอุปสงค์-อุปทานน้ำมันโลกที่ยังไม่น่าพอใจ (demand ไม่ฟื้นตัวชัด ขณะที่ supply นอกกลุ่มเพิ่มขึ้น) การถอนมาตรการอาจทำให้ราคาน้ำมันทรุด — ดังนั้นกลุ่มจึงมอง “เลื่อน” การปลดล็อกการผลิตหลายครั้งแทน.
ปัจจุบัน OPEC+ ยังกดปริมาณสำรองน้ำมันไว้จำนวนมาก — ประมาณ 5.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน (คิดเป็นราว 5.7% ของอุปสงค์โลก) จากมาตรการลดกำลังผลิตตั้งแต่ 2022 เพื่อพยุงตลาด.
ปัญหา คือ แม้จะรักษามาตรการไว้นาน กลุ่มกลับสูญเสียส่วนแบ่งตลาด (market share) ให้ประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่ม (เช่น กลุ่มแท็กซัสในสหรัฐฯ) ที่ขยายกำลังผลิตอย่างรวดเร็ว — ทำให้ OPEC+ ควบคุมตลาดได้ยากขึ้นตลอดเวลา.
อีกปัจจัยกดดันคือ “อุปทานทั่วโลก” ยังคงขยายตัว — ทั้งจากประเทศที่ไม่ใช่สมาชิก OPEC+ และสมาชิกที่ยังปรับขยาย capacity อย่างเช่น UAE, คาซัคสถาน, และบางภูมิภาคในแอฟริกา — ทำให้โอกาสที่อุปทานจะล้นตลาดสูงขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น ถ้า OPEC+ ยังคง “เลื่อน” การปลดล็อกเพิ่มกำลังผลิต (หรือปล่อยให้ demand-supply ไม่สมดุล) ไปเรื่อย ๆ ความน่าเชื่อถือ (credibility) ของกลุ่มอาจเสีย และการควบคุมราคา/อุปทานของตลาดโลกอาจหลุดมือมากขึ้นเรื่อย ๆ

source : Oil rises 2% on OPEC+ output plan, supply worries | Reuters
Fed pick by Christmas
Scott Bessent ระบุว่า มี “โอกาสสูงมาก” ที่ Donald Trump จะประกาศชื่อประธาน Fed คนใหม่ก่อนคริสต์มาสปีนี้ หลังจากเสร็จสิ้นรอบสัมภาษณ์ผู้สมัครรอบที่สอง โดยได้คัดเหลือ 5 คนสุดท้าย ได้แก่ Kevin Hassett(เน้นลดดอกเบี้ย / ผ่อนคลาย), Kevin Warsh(ผ่อนคลายกว่าปัจจุบัน แต่ไม่ได้สุดโต่ง), Christopher Waller(คงดอกเบี้ยสูงนานกว่า / Hawkish), Michelle Bowman(Hawkish เด่นชัด) และ Rick Rieder (ตรงกลาง ค่อนข้างผ่อนคลาย / Pragmatic) ซึ่งในกลุ่มนี้ Hassett ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่สุด
การสรรหาครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะวาระของ Jerome Powell จะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม 2026 ทำให้ Trump สามารถแต่งตั้งผู้ว่าการ Fed คนใหม่ได้ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าผู้ได้รับเลือกอาจมีแนวโน้มนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายกว่าเดิมและอาจสนับสนุนทิศทางการลดดอกเบี้ยตามที่ฝ่ายบริหารต้องการ
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวย้ำว่าทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงการคาดการณ์ และต้องรอคำประกาศอย่างเป็นทางการจาก Trump เท่านั้น
นอกจากนี้ เบสเซนต์เผยว่าทรัมป์และสี จิ้นผิงอาจพบกันมากถึง 4 ครั้งในปีหน้า ซึ่งจะช่วยเสถียรภาพความสัมพันธ์ทวิภาคี
ทรัมป์ตอบรับคำเชิญเยือนปักกิ่งในเดือนเมษายนปีหน้า ขณะสีจะเยือนสหรัฐฯ ช่วงปลายปี
แผนดังกล่าวรวมถึงการพบกันที่ G20 เมืองดอรัล และความเป็นไปได้เข้าร่วม APEC ที่เซินเจิ้น
การพบหารือถี่ขึ้นช่วยลดแรงตึงเครียดทางการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ที่สะสมมานาน
ตลาดมองว่านี่คือสัญญาณบวกต่อบรรยากาศลงทุนและซัพพลายเชนเอเชีย
Source: Good chance Trump may unveil Fed pick by Christmas, Bessent says | Reuters
Ukraine ready to advance peace plan
ความคืบหน้าข้อตกลงสันติภาพยูเครน
ยูเครนยอมรับร่างกรอบข้อตกลงสันติภาพที่สหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในการเจรจาที่อาบูดาบี
แม้รายละเอียดปลีกย่อยยังต้องเจรจาต่อ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การยุติสงครามที่ยืดเยื้อเกือบ 4 ปี
ยังไม่ชัดว่าคณะรัสเซียเข้าร่วมด้วยหรือไม่ แม้อยู่ในพื้นที่ของการเจรจา
การยอมรับร่างดังกล่าวลดความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่กดดันตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมา
หากคืบหน้าต่อ จะเป็นปัจจัยบวกต่อพลังงาน โภคภัณฑ์ และตลาดยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ
ทรัมป์ส่งผู้แทนพิเศษไปเจรจากับปูตินเรื่องสันติภาพ
ทรัมป์ระบุว่าได้ส่งสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษ เดินทางไปมอสโกเพื่อคุยสรุปดีลสันติภาพกับปูติน
ขณะเดียวกันรัฐมนตรีกองทัพบกสหรัฐฯ จะเข้าพบฝ่ายยูเครนในกระบวนการคู่ขนาน
ความเคลื่อนไหวนี้ชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ พยายามเร่งหาทางยุติความขัดแย้งโดยเร็ว
ตลาดตอบรับด้วยความคาดหวังว่าความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จะลดลงอย่างมีนัย
หากมีความคืบหน้า จะเป็นประเด็นบวกต่อความเชื่อมั่นทั่วโลกและทิศทางราคาพลังงาน
รัสเซียเผยได้รับข้อเสนอใหม่จากสหรัฐฯ เพื่อยุติสงครามยูเครน
ยูริ อูชาคอฟระบุว่ารัสเซียได้รับสำเนาข้อเสนอฉบับล่าสุดจากสหรัฐฯ แล้ว และยอมรับบางส่วนของข้อเสนอ. ประเด็นสำคัญหลายข้อยังต้องหารือเพิ่มเติมในเชิงผู้เชี่ยวชาญ. รัสเซียมองว่าข้อเสนอบางส่วนมีทิศทางเชิงบวก แต่ไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ. ขณะนี้ยังไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการกับประเทศที่เกี่ยวข้องอื่น. การประเมินร่างข้อเสนอกำลังอยู่ในขั้นตอนวิเคราะห์เชิงลึก.
US sees progress after talks in Florida with Ukraine
สหรัฐฯ เสนอ “แผนสันติภาพ” (peace plan) ให้ยูเครน — ยูเครนแสดงความยินดีรับโครงร่างหลัก และมีการเจรจาในระดับสูงต่อเนื่อง เช่น การประชุมที่เมืองไมอามี/ฟลอริดา ระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กับตัวแทนยูเครน เพื่อขอให้รัสเซียเข้าร่วมตามแผนดังกล่าว
ตัวแทนจากรัสเซีย — ผ่านสำนักข่าวของรัฐบาล — กล่าวว่ายังมองว่าการเจรจา “serious” แต่ย้ำว่า “ไม่มีแผนยืดหยุ่น” ที่จะรับข้อเสนอที่ลิดรอนผลประโยชน์ของรัสเซีย เช่น ดินแดนที่ถูกยึดไว้ยังคงเป็นเงื่อนไขขั้นต่ำสำหรับพวกเขา
⚠️ จุดที่ยังไม่มีความชัดเจน / ขัดแย้ง
ไม่มีการยอมรับจากรัสเซียต่อเงื่อนไข “สันติภาพ + ยุติสงคราม + ข้อตกลงครบถ้วน” ที่ยูเครนและพันธมิตรเสนอ — โดยเฉพาะเรื่องดินแดนที่ถูกรัสเซียยึด กลายเป็นเงื่อนไขที่รัสเซียยืนยันว่า “ไม่ยืดหยุ่น”
แม้มีการพูดถึงการหยุดยิงชั่วคราว (ceasefire) และการหยุดโจมตีโครงสร้างพื้นฐานบางส่วน แต่ก็ยังไม่มีการประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการที่ยืนยาว — และการโจมตียังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงที่มีการเจรจา
หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า “แผนสันติภาพ” ที่ผ่านมามีเงื่อนไขที่ “ฝ่ายรัสเซียมีอำนาจต่อรอง” สูงมาก — ทำให้ยูเครนและพันธมิตรยุโรปยังกังวลว่า ถ้ายอมรับทุกข้อเสนอ อาจเท่ากับยอมถอยเยอะเกินไป
🔎 สรุปสถานะ ณ ปัจจุบัน
ขณะนี้ยังถือว่า “อยู่ในช่วงเจรจา” — มีการหารือ แผน และข้อเสนอหลายฉบับ แต่ยัง ไม่มีข้อตกลงสุดท้าย (binding peace deal) ที่ผ่านความเห็นชอบจากรัสเซียและได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทั้งสองฝ่าย
Source : US sees progress after talks in Florida with Ukraine, but more work needed to reach deal | Reuters
Golden Dome for America
🗞️ ประเด็นข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ Golden Dome
U.S. Space Force ได้มอบสัญญา “ต้นแบบ (prototype contracts)” ชุดแรกสำหรับระบบ “space-based interceptors” ของ Golden Dome — เป็นก้าวแรกที่จับต้องได้ หลังจากโครงการถูกประกาศไว้ก่อนหน้านี้
ผู้ที่ได้รับสัญญารอบนี้ ได้แก่บริษัทใหญ่หลายแห่ง เช่น Northrop Grumman, Lockheed Martin และ Anduril รวมถึงบริษัทอื่นที่ไม่เปิดชื่ออย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมโครงการยังถูกวิจารณ์เรื่อง “ความล่าช้า + ขาดความชัดเจนด้านงบประมาณและแผนดำเนินงาน” — การหยุดชะงักจากกระบวนการอนุมัติ งบประมาณ และการเมืองภายในสหรัฐฯ ทำให้ความเสี่ยงของการ “เลื่อน” หรือ “ย่อสเกล” มีสูง
ยังมีความไม่แน่นอนในแง่เทคโนโลยี — ระบบ interceptors ในอวกาศถือเป็นเรื่องใหม่ มีผู้เตือนว่า timeline ที่ตั้งไว้ (เริ่มใช้งานเร็ว) อาจ “เกินจริง” และต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งด้านเทคนิค ความปลอดภัย และกฎหมายระหว่าง
โครงการ Golden Dome กำลังเดินหน้าในขั้น “พัฒนา prototype” — เป็นครั้งแรกที่มีสัญญาเกี่ยวกับ interceptors อวกาศออกมาอย่างเป็นรูปธรรม สะท้อนความตั้งใจของรัฐบาลสหรัฐที่จะผลักดันโครงการอย่างจริงจัง แต่ก็ยังอยู่ในช่วงต้น และมีอุปสรรคด้านงบประมาณ ความพร้อมด้านเทคโนโลยี และการเมือง ทำให้ผลลัพธ์ยัง “ไม่ชัวร์”
✅ สรุป “สถานะปัจจุบัน” (พ.ย. 2025)
Golden Dome ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการพัฒนา — มีการเปิดรับข้อเสนอ มี “prototype contracts” แจกให้บางบริษัทแล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศสัญญาหลักสำหรับ production/ deployment. บริษัทรายใหญ่ด้านการป้องกันประเทศ เช่น Lockheed Martin, Northrop Grumman, RTX (Raytheon) และบริษัทร่วมสมัย (เช่น Anduril) เป็นกลุ่มที่มีโอกาสสูง — แต่ไม่มี “รับประกัน” ว่าจะได้สัญญาเต็มรูปแบบ.
Source : Pentagon advances Golden Dome missile defense with new Space Force contracts | Reuters
Earning Calendar


ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ลดลงเกินคาด
จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงต่อเนื่อง สะท้อนตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง. ตัวเลขเฉลี่ย 4 สัปดาห์ปรับลดลงเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับที่บ่งชี้เสถียรภาพ. ขณะเดียวกัน ผู้ขอรับสวัสดิการต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจสะท้อนการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในการหางาน. ภาพรวมชี้ว่าตลาดแรงงานยังไม่ได้อ่อนแรงอย่างมีนัยสำคัญ. ข้อมูลดังกล่าวอาจมีผลต่อการตัดสินใจนโยบายของเฟดในระยะสั้น
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนตัวต่อเนื่องจากข้อมูล ADP
ADP ระบุว่าการจ้างงานภาคเอกชนลดลงเฉลี่ย 13,500 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ในรอบ 4 สัปดาห์ล่าสุด
ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานกำลังชะลอตัวเร็วกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า
ความอ่อนแรงดังกล่าวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนที่ลดลงเพียง 2,500 ตำแหน่งยิ่งตอกย้ำแนวโน้มชะลอ
แรงงานที่เย็นลงทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อผ่อนคลายลงอย่างชัดเจน
ตลาดมองว่านี่เป็นปัจจัยเร่งให้เฟดต้องเตรียมลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดในรอบหลายเดือน
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลง 6.8 จุดสู่ระดับ 88.7 ต่ำกว่าคาดและต่ำสุดตั้งแต่เมษายน
ทั้งดัชนีปัจจุบันและคาดการณ์ในอนาคตปรับตัวลงพร้อมกัน สะท้อนความกังวลต่อเศรษฐกิจ
ผู้บริโภครายงานความไม่มั่นใจด้านรายได้และสภาพตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนตัว
ภาพรวมสะท้อนแรงกดดันต่อการใช้จ่ายในไตรมาสถัดไป
อย่างไรก็ตาม ตลาดมองว่าความอ่อนแอนี้ช่วยเพิ่มโอกาสลดดอกเบี้ยของเฟด
Earning Calendar

Earnings Alibaba / Meituan

Alibaba
สถานะงบ: แย่กว่าคาด / รายได้หลักโตต่ำ + Margin กดดัน
Highlight
E-commerce Core: รายได้ขยายตัวต่ำกว่าคาดเพราะการบริโภคจีนอ่อนแอ และการแข่งขันจากPDD/Douyin รุนแรงกว่าที่ตลาดประเมิน
Cloud Segment: เติบโตต่ำกว่าคาด แม้มีงาน AI เพิ่มขึ้น แต่ดีลใหญ่ภาครัฐ/องค์กรยังชะลอตัว
International Commerce: โตดีแต่ไม่พอชดเชยความอ่อนแอในจีน
กำไรหดตัว: Margin ถูกกดดันจากการแข่งขัน ราคาส่งเสริมการขาย และการลงทุนด้าน AI
ประเด็นสำคัญ
Expectations Reset: ตลาดต้องปรับประมาณการลงต่อ เพราะ Core commerce ยังไม่เห็นจุดกลับตัวชัดเจน
Cloud ยังไม่เป็น Growth Engine: แม้มี Narrative ด้าน AI แต่ตัวเลขจริงยังไม่ช่วยผลประกอบการระยะสั้น
Valuation ยังถูก แต่ริสก์ฝั่ง Earnings สูง: ทำให้ฝั่งนักลงทุนยังไม่กล้ากลับมาเต็มตัว
Action: นักลงทุนส่วนใหญ่ยังรอดูทิศทางการบริโภคและการแข่งขันก่อน แม้บางฝั่งเริ่มเก็บเพราะราคาลงลึก

Meituan
สถานะงบ: แย่กว่าคาด / รายได้ต่ำกว่าคาด + ค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่ประเมิน
Highlight
Food Delivery: ยังโต แต่ช้ากว่าคาด เพราะผู้บริโภคประหยัดมากขึ้นในสภาพเศรษฐกิจอ่อนแรง
In-store / Travel: โตดีแต่ไม่แรงพอชดเชยภาพรวมที่ชะลอ
New Initiatives: ขาดทุนมากกว่าที่ตลาดคาด เนื่องจากการแข่งขันราคาและลงทุนด้านโลจิสติกส์เพิ่ม
Margin หดตัว: ค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน + การแข่งขันกับ Douyin ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
ประเด็นสำคัญ
Demand ยังมีแต่กำไรไม่มา: ธุรกิจยังเติบโตแต่โมเดลกำไรถูกกดดันหนักกว่าที่คาด
Competition Pressure: Douyin Local ยังกินส่วนแบ่งตลาด ทำให้ Meituan ต้องอัดโปรโมชั่น
Valuation ถูก แต่ภาพกำไรไม่ชัด: นักลงทุนยังไม่เชื่อว่ากำไรจะกลับมาเป็นเทรนด์ขาขึ้น
Action: ฝั่ง Long ระยะยาวเริ่มดู แต่ sentiment ระยะสั้นยังเป็นลบเพราะงบ miss
Source : ปฏิทินและรายงานผลประกอบการ: สหรัฐอเมริกา — TradingView
กองทุนเสนอขายครั้งแรก และการจัดอันดับกองทุนพักเงิน

จัดอันดับกองทุนพักเงินประจำสัปดาห์ วันที่ 01 ธันวาคม 2568 ประเภทกองทุนตลาดเงิน ตราสารหนี้ระยะสั้น และตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว โดยเรียงตามอัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี



ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://wealthcertified.co.th/market-update/
Disclaimer
ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของเอกสารฉบับนี้ รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการขาดทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น
เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปและไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยปราศจากความเห็นชอบและอนุญาตจากบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด