ไทย ENG

CONTACT US
0-2026-6875

Weekly Highlight 14 ตุลาคม 2568

14/10/2025

สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มพักฐานจากข่าวการประกาศมาตราการควบคุมแร่หายากของจีนและการตอบโต้ของทรัมป์ในการขู่ขึ้นภาษีต่อจีนถึง 100% และได้มีการบอกว่าอาจไม่จำเป็นต้องไปพบที่งานเกาหลีใต้ซึ่งเดิมจะพบกันฝนช่วงปลายเดือนนี้ ทำให้ตลาดเกิดแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยงจากก่อนหน้านี้ที่ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องจากข่าวดีหลายประการเช่น การอนุมัติให้ Nvidia ส่งออกชิป AI ไปยัง UAE หรือข่าวการลงทุนของ xAI ของ Elon Musk ที่ได้มีการเพิ่มวงเงินระดมทุนรวมเป็น 20 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ตลาดยังจับตาการปิดรัฐบาลของสหรัฐฯที่ยังดำเนินต่อไปอาจยืดเยื้อนานหรือไม่และการประชุม Fed ครั้งถัดไปซึ่งคาดหวังการลดดอกเบี้ยรวมถึงการประกาศงบไตรมาส 3 ของบรรดาหุ้นเทคโนโลยีต่างๆที่จะประกาศช่วงปลายเดือน ส่วนทางด้านทองคำยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความเสี่ยงรอบด้านและความไม่แน่นอนที่มากขึ้น และค่าเงินดอลลาร์อาทิตย์ที่ผ่านมีการปรับตัวแข็งค่าขึ้น

ค่า PE ปรับลดลง ขณะที่ Bond Yield หลายประเทศส่วนใหญ่ทรงตัวปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ปรับตัวลงมาต่อเนื่องตอบรับการลดดอกเบี้ย ทำให้ Earning Yield Gap โดยรวมมีแนวโน้มทรงตัวในกรอบทั้งหุ้นและบอนด์แต่กว้างกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเล็กน้อย

News overview from last week

China Tightens Rare Earth Export Controls

ประเด็นสำคัญ

📅 การประกาศควบคุมการส่งออกแร่หายากล่าสุดของจีน

จีนได้ประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากชุดใหม่ล่าสุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2568 โดยมีผลบังคับใช้ทันที

การประกาศนี้เป็นการขยายและตอกย้ำมาตรการที่เคยมีการประกาศไปก่อนหน้าในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งเคยสร้างความปั่นป่วนในตลาดโลกมาแล้ว

📜 รายละเอียดมาตรการล่าสุด (9 ต.ค. 2568) ที่สำคัญ

กระทรวงพาณิชย์จีน (MOFCOM) ได้ขยายขอบเขตการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยมุ่งเน้นที่เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ (Downstream Products) ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์:

1. ควบคุมเทคโนโลยีและอุปกรณ์การผลิต (Technology Control):

กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตส่งออกอย่างเป็นทางการสำหรับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ใช้ในการขุด, การถลุง, การแยกแร่, การผลิตแม่เหล็ก, การรีไซเคิล, และการบำรุงรักษาในสายการผลิตแร่หายาก

2. ขยายรายการแร่หายากที่ถูกจำกัด (Expanded Elements):

มีการเพิ่มแร่หายากบางชนิดเข้าสู่รายการควบคุม ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่สำคัญต่อการป้องกันประเทศและเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โฮลเมียม (Holmium), เออร์เบียม (Erbium), ทูเลียม (Thulium), ยูโรเปียม (Europium), และ อิตเทอร์เบียม (Ytterbium) (ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2568)

3. ห้ามใช้ในภาคกลาโหมและจำกัดภาคเซมิคอนดักเตอร์:

ผู้ใช้งานในภาคกลาโหม (Defense Users) ที่อยู่ต่างประเทศ จะไม่สามารถได้รับใบอนุญาตส่งออกโดยเด็ดขาด

ส่วนการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง (Advanced Semiconductors) จะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณีเท่านั้น

4. จำกัดความร่วมมือระหว่างประเทศ:

บริษัทจีนไม่สามารถร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับแร่หายากโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล

ผู้ผลิตในต่างประเทศที่ใช้ชิ้นส่วน, เครื่องจักร, หรือเทคโนโลยีที่มาจากจีนในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ควบคุม ก็ต้องยื่นขอใบอนุญาตส่งออกด้วย

🌍 สาเหตุที่ข่าวนี้ทำให้ตลาดลงแรง

มาตรการใหม่นี้ถูกมองว่าเป็น “อาวุธทางเศรษฐกิจ” ของจีน เพื่อตอบโต้มาตรการของสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งมาตรการนี้ได้กระตุ้นให้ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขู่จะขึ้นภาษีกับสินค้าจีนอีก 100% ในวันถัดมาทันที (10 ตุลาคม 2568) จึงเป็นชนวนที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างรุนแรง

แต่หลังจากทรัมป์ได้โพสบอกว่าไม่ต้องกังวลและาหรัฐฯและจีนคงไม่อยากซ้ำเติมเศรษฐกิจที่กำลังเปาะบาง หลังจากนั้นตลาดก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นรีบาวด์ได้

source : Trump ratchets up US-China trade war, promising new tariffs | Reuters

Economic Calendar 

ตลาดจับตาถอยแถลงของเจอโรม พาวเวลล์

source : OpenAI, Oracle, SoftBank plan five new AI data centers for $500 billion Stargate project | Reuters

Economic Calendar 

Earning Calendar

ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์ทางสหรัฐฯยังไม่สามารถประกาศตัวเลขสำคัญได้เนื่องจากการปิดตัวของรัฐบาลสหรัฐฯที่ยังดำเนินต่อเนื่อง ขณะที่ทางด้านงบไตรมาส 3 ของบริษัทในสหรัฐฯหลายบริษัทใกล้ประกาศงบ ขณะที่จีนประกาศช่วงเดือนหน้า ภาพรวมผลประกอบการณ์คดว่าจะยังเติบโตดีซึ่งอาจช่วยพยุงตลาดได้

Earnings PepsiCo

ประเด็นสำคัญ

PepsiCo รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ดีกว่าคาด ทั้งรายได้และกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core EPS) โดยมีกำไรต่อหุ้นปรับแล้ว (Core EPS) ที่ 2.29 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ราว 2.26 ดอลลาร์ และรายได้รวม 23.94 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.6% จากปีก่อน และสูงกว่าประมาณการตลาด แม้ในภาวะที่ผู้บริโภคทั่วโลกระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

จุดแข็งสำคัญคือ ความสามารถในการควบคุมต้นทุนและการจัดการราคา (price/mix) ซึ่งช่วยพยุงอัตรากำไรได้ดีในภาวะต้นทุนสูง ขณะเดียวกัน ยอดขายแบบ organic โต 1.3% แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อในตลาดหลักยังทรงตัว โดยเฉพาะในธุรกิจขนมและเครื่องดื่มนอกสหรัฐ ซึ่งภูมิภาค EMEA และละตินอเมริกาเติบโตเด่น รวมถึงตลาดเอเชีย เช่น อินเดีย ที่มียอดขายขนมขบเคี้ยวเพิ่มขึ้นชัดเจน

ด้านกลยุทธ์ บริษัทเดินหน้าปรับโครงสร้างเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยประกาศปิดโรงงาน 2 แห่งและลดสายผลิตภัณฑ์ราว 15% ในไตรมาสถัดไป พร้อมวางแผนปรับ “ขนาดบรรจุและราคาสินค้า” ให้เหมาะกับภาวะระมัดระวังของผู้บริโภค และเน้นนวัตกรรมสินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์สุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้ง Steve Schmitt (อดีต CFO Walmart US) เป็น CFO คนใหม่ ซึ่งถูกมองว่าอาจช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารทางการเงิน

อย่างไรก็ดี ปริมาณหน่วยขาย (volume) ของธุรกิจหลักยังลดลงราว 1% ขณะที่กำไรตามเกณฑ์บัญชี (GAAP EPS) ลดลงราว 11% จากปีก่อน อันเป็นผลจากต้นทุนพลังงานและโลจิสติกส์ที่ยังสูง รวมถึงผลกระทบจากค่าเงินที่คาดว่าจะกดดันผลประกอบการต่อเนื่องในปี 2025 นอกจากนี้ การเข้าลงทุนของกองทุน activist อย่าง

Elliott Management ยังเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างและบริหารพอร์ตให้คล่องตัวมากขึ้น

โดยรวม PepsiCo แสดงให้เห็นถึง ความแกร่งในการบริหารต้นทุนและการเติบโตของตลาดต่างประเทศ แม้เผชิญแรงต้านจากต้นทุนและปริมาณขายในประเทศที่ชะลอตัว ทำให้ไตรมาสนี้ยังถือว่าเป็น beat ที่มีคุณภาพ” และสะท้อนทิศทางการฟื้นตัวอย่างระมัดระวังของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก.

source : PepsiCo beats earnings estimates on steady demand for sodas and snacks, names new CFO | Reuters

Earnings Forecast BlackRock

ประเด็นสำคัญ

หุ้น BlackRock Inc. ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 1,183.64 ดอลลาร์ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผลดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยให้ผลตอบแทน 24.8% ในรอบปี และ 42.5% ใน 6 เดือน ล่าสุด มูลค่าตลาดอยู่ที่ 183 พันล้านดอลลาร์ และนักวิเคราะห์ให้กรอบราคาเป้าหมายระหว่าง 1,000–1,396 ดอลลาร์ บริษัทมีสถานะทางการเงิน “ดี” จาก InvestingPro และเพิ่มเงินปันผลต่อเนื่อง 15 ปี ตอกย้ำบทบาทผู้นำในอุตสาหกรรมบริหารสินทรัพย์

ด้านกลยุทธ์ BMO Capital เริ่มคัดหุ้นด้วยคำแนะนำ “Outperform” และตั้งเป้าราคา 1,280 ดอลลาร์ ขณะเดียวกัน Global Infrastructure Partners (GIP) ในเครือ BlackRock อยู่ระหว่างเจรจาซื้อ AES Corp. และถือหุ้น 50% ในแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลของ ACS มูลค่ากว่า 1 พันล้านยูโร

ในระดับนโยบาย นาย Rick Rieder ผู้บริหารระดับสูงของ BlackRock ถูกมองว่าอาจเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธาน Fed คนต่อไป หลังวาระของ Jerome Powell สิ้นสุด และบริษัทกำลังขยายธุรกิจในตะวันออกกลาง โดยเปิดสำนักงานใหม่ใน คูเวต พร้อมแต่งตั้ง Ali AlQadhi ดูแลการดำเนินงานในคูเวตและกาตาร์

source : BLK การคาดการณ์ — ราคาเป้าหมายสำหรับ2026 — TradingView

Earnings Forecast ASML

ประเด็นสำคัญ

ความต้องการ AI ยังคงแกร่ง แต่ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ไม่สามารถการันตีการเติบโตปี 2026
ASML มองโอกาสจากการเติบโตของ AI ในเชิงบวก โดย CEO ระบุว่า “ลูกค้า AI ยังคงมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง” บริษัทได้ส่งมอบระบบ TWINSCAN EXE:5200B (High NA EUV) เครื่องแรกในไตรมาสนี้ และเห็นความคืบหน้าของ litho intensity โดยเฉพาะใน DRAM อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถการันตีการเติบโตในปี 2026 เนื่องจากความไม่แน่นอนจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ คาดการณ์ไตรมาส 3 EPS อยู่ที่ประมาณ 5.46 EUR +4%QoQ

ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ กระทบอัตรากำไร ขณะที่ข้อจำกัดขายให้จีนและการลดค่าใช้จ่ายของ Intel เป็นความท้าทาย
ASML เผชิญความเสี่ยงหลักจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาต่ออุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งอาจกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น CFO เตือนถึงความเสี่ยงจากมาตรการตอบโต้ของประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ จีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับสองใน 1Q25 ยังคงถูกจำกัดการขายระบบ EUV ที่ทันสมัยที่สุด และการที่ Intel ลดค่าใช้จ่ายและเลื่อนโรงงานในเยอรมนีและโปแลนด์ยังเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม

source : Trump, in rhetorical shift, says Ukraine can retake all its land | Reuters

Earnings Forecast TSMC

ประเด็นสำคัญ

TSMC ประกาศยอดขายไตรมาส 3 ทะยานสู่ระดับ 32.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 30% (YoY) ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ประมาณ 2.72% สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการชิปสำหรับเทคโนโลยี AI ที่ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

แรงหนุนหลักมาจากยอดสั่งซื้อของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เช่น NVIDIA, AMD และ Broadcom ที่ใช้ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปเร่งการประมวลผล AI (AI accelerator) รวมถึงชิปประมวลผลสำหรับ iPhone ของ Apple แม้ตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคจะชะลอตัว แต่การเปลี่ยนไปผลิตชิประดับสูงอย่าง 3nm และ 5nm ทำให้ กำไรต่อหน่วยของ TSMC เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ด้านเทคโนโลยี AI บริษัทเทคสหรัฐฯ ตั้งแต่ Nvidia ถึง OpenAI ยังคงทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มศักยภาพด้าน Cloud Computing ซึ่ง TSMC มองว่าเป็น ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตระยะยาว แม้ตลาดมีความกังวลเรื่อง “ฟองสบู่ AI” จากดีลหมุนเวียนระหว่างบริษัทเหล่านี้ แต่ตัวเลขล่าสุดชี้ว่าความต้องการ AI ยังแข็งแรงกว่าที่คาด

source : TSM Stock Price — TSMC Chart — TradingView

Trump Announces Official End to Gaza War

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยุติสงครามในฉนวนกาซาอย่างเป็นทางการ หลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาที่มีสหรัฐฯ, อียิปต์, กาตาร์ และตุรกีเป็นผู้กลาง

🇮🇱 การแลกเปลี่ยนตัวประกัน

ภายใต้ข้อตกลงนี้ ฮามาสได้ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด 20 คน ซึ่งถูกจับตัวไปตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ขณะเดียวกัน อิสราเอลได้ปล่อยตัวผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ประมาณ 2,000 คน การแลกเปลี่ยนนี้ทำให้ครอบครัวของผู้ถูกจับตัวทั้งสองฝ่ายได้กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานสองปี

🕊️ สถานการณ์ในฉนวนกาซา

แม้จะมีการหยุดยิง แต่สถานการณ์ในฉนวนกาซายังคงตึงเครียด โดยมีการรายงานว่าฮามาสยังคงปราบปรามกลุ่มคู่แข่งภายในพื้นที่ และมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับบทบาทในอนาคตของฮามาส รวมถึงการฟื้นฟูและการกำหนดการปกครองของฉนวนกาซา

🌍 การประชุมสุดยอดในอียิปต์

หลังจากการประกาศหยุดยิง ทรัมป์ได้จัดการประชุมสุดยอดที่เมืองชาร์มเอลชีค ประเทศอียิปต์ โดยมีผู้นำจากกว่า 20 ประเทศเข้าร่วม เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของฉนวนกาซา สันติภาพในภูมิภาค และการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม

source : Trump declares end of Gaza war as last Israeli hostages swapped for Palestinian detainees | Reuters

Massive Crypto Market Liquidation Shakes Investors

ประเด็นสำคัญ

การล้างพอร์ตครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตเผชิญกับการขายต่อเนื่อง (liquidations) มากกว่า 19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากแรงขายและสภาพคล่องต่ำ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวรุนแรงในราคาสินทรัพย์ดิจิทัล

การลดลงของ Bitcoin และ Ether เป็นไปอย่างรวดเร็ว — บิทคอยน์ร่วงกว่า 14% จากจุดสูงสุด

นักลงทุนเร่งตั้ง “การป้องกัน” (hedge) ต่อความเสี่ยงขาลง

ตลาดอนุพันธ์คริปโตเห็นการซื้อ “puts” (สิทธิ์ขาย) เป็นจำนวนมาก ทั้งใน Bitcoin และ Ether — ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนคาดหวังว่าราคามีโอกาสลดลงอีก

มีการเปลี่ยนจากการซื้อ “calls” มาเป็นการขาย “calls” ในหลายระดับราคาในสัญญาที่จะหมดอายุเร็ว ๆ นี้ — สะท้อนความเชื่อในมุมมองโน้มเอียงขาลงในช่วงสั้น

สภาพตลาดและการเคลื่อนย้ายทุน

แม้ตลาดจะล้มลงหนัก แต่ “กระแสเงินลงทุน (flows)” เข้าใน Bitcoin ยังถือว่าดี — ซึ่งช่วยหนุนให้มันฟื้นตัวได้บางส่วน

ในทางกลับกัน เงินทุนใน Ether ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และโซนของ altcoins (เหรียญอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin และ Ether) มีการไหลออกอย่างหนัก นักลงทุนหลายรายมองว่าอาจมีการย้ายทุนจาก altcoins ไปยัง Bitcoin แทนที่จะออกจากตลาดทั้งหมด

บางมุมมองมองว่าการล้างหนี้ (leverage) ที่มากเกินไปถูก “ล้างออก” แล้ว ซึ่งอาจช่วยปรับความเสี่ยงในตลาดให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้มากขึ้น ณ จุดนี้

อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือและการคาดเดาในวงการคริปโตที่เชื่อมโยง Barron Trump กับการทำกำไรจากการชอร์ต Bitcoin มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ ก่อนการประกาศดังกล่าว โดยมีการกล่าวถึงการทำกำไรระหว่าง 160–200 ล้านดอลลาร์จากการชอร์ต Bitcoin

ทั้งนี้ ไม่มีหลักฐานสาธารณะ เช่น ข้อมูลจากการแลกเปลี่ยน (exchange) หรือบล็อกเชน (blockchain) ที่ยืนยันว่า Barron Trump หรือครอบครัว Trump มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมดังกล่าว ข้อมูลที่มีอยู่ส่วนใหญ่เป็นการคาดเดาและข่าวลือในสื่อสังคมออนไลน์

source : Trump declares end of Gaza war as last Israeli hostages swapped for Palestinian detainees | Reuters

US OKs Nvidia Exports; xAI Eyes $20B Raise

ประเด็นสำคัญ

รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติให้ Nvidia ส่งออกชิป AI ไปยัง UAE

“US approves some Nvidia UAE sales, Bloomberg News reports” — สหรัฐอเมริกาได้อนุมัติการส่งออกชิปของ Nvidia มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยการอนุมัติดังกล่าวออกโดยสำนักงาน Bureau of Industry and Security ของกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้ข้อตกลง AI ระหว่างสองประเทศที่ตกลงกันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

ตามข้อตกลงเบื้องต้น UAE จะได้รับอนุญาตให้สั่งชิปขั้นสูงของ Nvidia จำนวน 500,000 ชิ้นต่อปี ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป และอาจขยายสัญญานี้ไปจนถึงปี 2027 หรือ 2030

กระทรวงพาณิชย์ยืนยันถึงความมุ่งมั่นใน “พันธมิตร AI” ระหว่างสหรัฐฯ และ UAE

source : US approves some Nvidia UAE sales, Bloomberg News reports | Reuters

xAI ของ Elon Musk เพิ่มวงเงินระดมทุนรวมเป็น ~ 20 พันล้านดอลลาร์

“Musk’s xAI nears $20 billion capital raise tied to Nvidia chips” — รายงานว่า xAI ของ Elon Musk กำลังเพิ่มเป้าการระดมทุนเป็นราว 20 พันล้านดอลลาร์ โดยเงินทุนรอบนี้จะประกอบด้วยส่วนของทุน (equity) และหนี้ (debt) และมีการจัดโครงสร้างให้ SPV (special purpose vehicle) ซื้อชิป Nvidia แล้วให้ xAI เช่าใช้งานต่อเพื่อใช้ในศูนย์ข้อมูล Colossus 2

ในส่วนของ equity, มีรายงานว่า Nvidia จะลงทุนสูงสุดถึง 2 พันล้านดอลลาร์

ไฟนานซ์รอบนี้ถูกแบ่งเป็น ~$7.5 พันล้านดอลลาร์ในรูปแบบ equity และ ~$12.5 พันล้านดอลลาร์เป็นหนี้ ซึ่งทั้งหมดถูกผนวกอยู่ในโครงสร้าง SPV เพื่อรองรับการจัดส่งและใช้งานชิป

source : Musk’s xAI nears $20 billion capital raise tied to Nvidia chips, Bloomberg News reports | Reuters

ASTS-Verizon Deal; AMD-OpenAI Chip Pact

ประเด็นสำคัญ

AST SpaceMobile (ASTS) ปรับตัวขึ้น +8.63%

ผมไม่พบข่าว Reuters ที่ระบุการขึ้น +8.63% ของ AST SpaceMobile โดยตรงตามที่คุณกล่าว

แต่มีข่าว Reuters ที่เกี่ยวกับ AST SpaceMobile ดังนี้ :

“AST SpaceMobile Announces Definitive Commercial Agreement With Verizon” — AST SpaceMobile ประกาศข้อตกลงเชิงพาณิชย์กับ Verizon เพื่อสนับสนุนบรอดแบนด์แบบอวกาศ (space-based cellular broadband) สำหรับลูกค้า Verizon ในสหรัฐอเมริกา โดยการให้บริการจะเริ่มในปี 2026

ข้อตกลงนี้เป็นข่าวสำคัญที่สะท้อนความเคลื่อนไหวในธีมอวกาศ-โทรคมนาคมของ AST SpaceMobile

source : AST SpaceMobile Announces Definitive Commercial Agreement With Verizon — TradingView News

AMD จะจัดส่งชิป AI จำนวนหลายแสนชิ้นให้กับ OpenAI ภายในหลายปี โดยเริ่มตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2026ชิปที่ใช้คือชุด MI450 series ของ AMD โดย AMD ออก warrant ให้ OpenAI สามารถซื้อหุ้น AMD ได้สูงสุด ~160 ล้านหุ้น (~10% ของ AMD) ราคาหุ้นละ 1 เซนต์ (USD $0.01) ตามเงื่อนไขและช่วงเวลา (vesting) ที่ตกลงไว้ ข้อตกลงนี้คาดสร้างรายได้ระดับหลายสิบพันล้านดอลลาร์ต่อปี มีผล “ลูกโซ่” ให้ AMD ได้รายได้รวมจาก OpenAI และลูกค้าอื่น ๆ มากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีข้างหน้า

สถานะเทียบกับ Nvidia และผลกระทบในอุตสาหกรรม AI

Nvidia ยังคงเป็นผู้นำตลาดชิป AI และมีความต้องการผลิตชิปสูงมากจนขายแทบไม่ทัน

ดีลนี้เป็น “คะแนนโหวตแห่งความเชื่อมั่น” ต่อเทคโนโลยีของ AMD ว่าแข็งแกร่งพอ

source : AMD signs AI chip-supply deal with OpenAI, shares surge over 34% | Reuters

Oracle Margin Worries; Tesla Price Cuts Hit Shares

Oracle มีรายได้จากการให้เช่าเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิป Nvidia ประมาณ 900 ล้านดอลลาร์ แต่ได้กำไรขั้นต้น (gross profit) เพียง 125 ล้านดอลลาร์ — ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 14%

อัตรากำไร 14% ต่ำมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นของ Oracle ที่มีกำไรขั้นต้นประมาณ 70%

หลังข่าวนี้ หุ้น Oracle ดิ่งลงประมาณ 3–4% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าโมเดลธุรกิจ AI cloud infrastructure ที่ต้องลงทุนสูงอาจไม่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะสั้น

แม้จะมีแรงขายหุ้น แต่หลายบริษัทวิเคราะห์มองว่าเมื่อธุรกิจเติบโต (scale) แล้วอัตรากำไรอาจปรับตัวดีขึ้น และประเมินว่า Oracle อาจผ่านช่วงที่กำไรถูกกดดันไปได้

ขณะที่Tesla เปิดตัวรุ่นราคาย่อมเยาของ Model Y และ Model 3 ที่ราคา 39,990 ดอลลาร์ และ 36,990 ดอลลาร์ ตามลำดับ เพื่อเร่งยอดขายในตลาดที่การแข่งขันสูงขึ้น

แต่หุ้น Tesla ได้รับแรงกดดันและร่วงประมาณ 3.6% เมื่อข่าวดังกล่าวเผยแพร่

นักวิเคราะห์มองว่ามาตรการลดราคานี้เป็น “ดาบสองคม” — อาจช่วยเพิ่มปริมาณการขายและรักษาส่วนแบ่งการตลาด แต่ในขณะเดียวกันอาจกดดันอัตรากำไรต่อหน่วย และอาจ “กิน” ยอดขายรุ่นที่มี margin สูงกว่า (cannibalization)

source : AMD signs AI chip-supply deal with OpenAI, shares surge over 34% | Reuters

กองทุนเสนอขายครั้งแรก และการจัดอันดับกองทุนพักเงิน

จัดอันดับกองทุนพักเงินประจำสัปดาห์ วันที่ 29 กันยายน 2568 ประเภทกองทุนตลาดเงิน ตราสารหนี้ระยะสั้น และตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว โดยเรียงตามอัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี

ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://wealthcertified.co.th/market-update/

Disclaimer

ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของเอกสารฉบับนี้ รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการขาดทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น

เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปและไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยปราศจากความเห็นชอบและอนุญาตจากบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด

You cannot copy content of this page