ไทย ENG

CONTACT US
0-2026-6875

Monthly Insight เดือน สิงหาคม 2568

04/08/2025

ตลอดเดือนที่ผ่านมา ตลาดการลงทุนได้แรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทในสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งช่วยหนุนดัชนีทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะเดียวกันสหรัฐฯประกาศการเจรจาการค้ากับหลายประเทศ โดยบรรลุข้อตกลงภาษีนำเข้าหลายประเทศระหว่าง 10-41% พร้อมขยายเวลาพักมาตรการภาษีกับจีนอีก 90 วัน นอกจากนี้สหรัฐจะขยายเวลาในการเจรจาการค้ากับเม็กซิโกออกไปอีก 90 วัน แม้จะความกังวลในช่วงกลางเดือนที่ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทองแดง เซมิคอนดักเตอร์ ยา และสินค้าจากเม็กซิโกและยุโรปในอัตราสูงถึง 200% แต่ล่าสุดได้ถูกยกเว้นภาษีในดีลแล้ว ด้าน Nvidia ฟื้นตัวแรงหลังคืนสิทธิขายชิปให้จีน ส่วน ASML ส่งสัญญาณเตือนรายได้ในอนาคตอาจไม่สดใสนัก ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเนื่องและค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนต่อเนื่อง

Major Indices Return

ค่า PE ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้โอกาสขึ้นดอกเบี้ยลดลงในช่วง แต่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่มองความเสี่ยงจำกัด ความคาดหวังต่อกลุ่มเทคโนโลยีกลับมาอีกครั้ง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทรงตัว ทำให้ Earning Yield Gap โดยรวมแคบลงกว่าเดือนที่ผ่านมา แต่แนวโน้มเริ่มกว้างมากขึ้นจากมูลค่าหุ้นที่ตึงตัว

โดยจากข้อมูล Bloomberg Intelligence ในภาพแสดงถึงผลตอบแทนของตลาดหุ้นและพันธบัตรอายุ 10 ปีมีการบีบเข้าหากันมากขึ้นทำให้การลงทุนในหุ้นถูกลดความน่าสนใจลงไปได้ในระยะสั้นเมื่อเทียบกับลงทุนในพันธบัตร

News overview from last month

ภาพรวมข่าวในตลาดหุ้นที่ผ่านมาจากภาพกราฟดัชนี S&P500 และภาพรวมข่าวรวมถึงผลกระทบของข่าวนั้นๆต่อดัชนี จะเห็นว่าต้นเดือน ก.ค. มีความผันผวนของภาษีการค้าเข้ามากระทบตลาดแต่ตลาดปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากแรงหนุนของหุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI ปรับตัวขึ้นได้ดีต่อเนื่อง หลังจากนั้นช่วงปลายเดือนก่อนเข้าใกล้เส้นตายภาษีของทรัมป์ ได้มีข่าวการเจรจาที่ตกลงกันได้ในประเทศหลักๆหลายๆประเทศทำให้เป็นปัจจัยบวกต่อเนื่อง จนถึงช่วงต้นเดือน ส.ค. ที่การประกาศงบได้ตอบรับไปพอสมควรแล้วประกอบกับตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ล่าสุดตลาดเริ่มมีการปรับตัวลดลงพักฐานจากมูลค่าหุ้นที่ตึงตัวโดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยี

U.S. Stocks Have Never Lost in June–July Over the Past Decade

จากประเด็นข่าวที่ช่วงต้น ส.ค. ตลาดเริ่มปรับตัวลดลง มีความสอดคล้องกับค่าสถิติที่เดือน ก.ค. จะเป็นปีที่ตลาดปรับตัวได้ดีในทุกๆปีก่อนจะเรื่มปรับตัวลดลงในช่วง ส.ค.-ก.ย. แต่ค่าสถิติในอดีตทุกๆครั้งที่หุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่มักจะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อเนื่องอีกถึง 12 เดือน

Source : https://www.barchart.com/stocks/market-performance

นอกจากนี้ข้อมูลจาก Bloomberg Intelligence ที่แสดงถึงผลกระทบของดอกเบี้ยต่อบริษัท magnificent 7 จะเห็นว่าดอกเบี้ยรับจะมากกว่าดอกเบี้ยจ่ายดังนั้นหากดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูงนาน คาดว่าจะไม่กระทบต่อหุ้นเหล่านี้มากนักและหากดอกเบี้ยลดลงก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อความน่าสนใจในการลงทุนหุ้น

Global Economic Growth Outlook Revised Up, Inflation Risks Remain

IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกปี 2568 จะขยายตัวราว 3.0% และปี 2569 ที่ 3.1% สูงกว่าประมาณการเดิมจากเดือนเมษายน สะท้อนปัจจัยหนุนจากการเตรียมตัวก่อนขึ้นภาษี การลดลงของอัตราภาษีที่แท้จริง ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น และการขยายตัวทางการคลังในบางประเทศ ขณะที่เงินเฟ้อโลกมีแนวโน้มลดลง แต่เงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังอยู่เหนือเป้าหมาย ความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีศุลกากร ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยกดดัน

Source : World Economic Outlook Update, July 2025: Global Economy: Tenuous Resilience amid Persistent Uncertainty

Overview of US Trade Deal

US–Philippines Strike Trade Deal: 19% Tariff Set

🔍 สหรัฐ–ฟิลิปปินส์: ข้อตกลงทางการค้า

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศข้อตกลงทางการค้ากับ ฟิลิปปินส์ หลังการเยือนของประธานาธิบดี Ferdinand Marcos Jr. โดยกล่าวว่าจะ เก็บภาษีนำเข้า 19% จากสินค้าชิ้นฟิลิปปินส์ ขณะที่สินค้าสหรัฐเข้าไปขายในสหรัฐจะ ได้รับยกเว้นภาษี

อัตรานี้ลดลงเล็กน้อย จากที่ Trump เคยขู่จะขึ้นเป็น 20% และใกล้เคียงกับอัตราที่ตกลงกับ อินโดนีเซีย (19%) และ เวียดนาม (20%)

ฟิลิปปินส์จะ เปิดตลาดนำเข้าสินค้าสหรัฐ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ พืชผลเกษตร และยารักษาโรค รวมถึงเสริมความร่วมมือด้านทหาร ประธาน Marcos เรียกว่า “ความสำเร็จที่สำคัญ” และทูตฟิลิปปินส์เรียกข้อตกลงว่า “ยังมีช่องพัฒนาในอนาคต”

Source : Trump strikes tariff deal with Japan, auto stocks surge | Reuters

US–Japan Trade Deal Cuts Auto Tariffs, Unlocks $550B Investment

🔍 สหรัฐญี่ปุ่น ข้อตกลงทางการค้า

ประธานาธิบดี Donald Trump ได้บรรลุข้อตกลงการค้า โดยจะลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นจาก 27.5% เหลือ 15% และยกเว้นภาษีสินค้าญี่ปุ่นอื่น ๆ ซึ่งมีกำหนดใช้วันที่ 1 สิงหาคม 2025 จากเดิม 25% เหลือ 15%

ญี่ปุ่นให้คำมั่นจะลงทุนในสหรัฐฯ ทั้งสิ้น 550 พันล้านดอลลาร์ ในโครงการด้านซัพพลายเชน เช่น เซมิคอนดักเตอร์และยาที่มีเป้าหมายขยายผลิตภัณฑ์ในสหรัฐฯ

ญี่ปุ่นยังจะซื้อเครื่องบิน Boeing 100 ลำ และเพิ่มงบประมาณสําหรับบริษัทสหรัฐฯ ด้านการป้องกันประเทศ จาก 14 พันล้านดอลลาร์ เป็น 17 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ามสำเร็จที่สำคัญ” และทูตฟิลิปปินส์เรียกข้อตกลงว่า “ยังมีช่องพัฒนาในอนาคต”
Source : Trump strikes tariff deal with Japan, auto stocks surge | Reuters

US–South Korea Trade Agreement

 🔍 สหรัฐ–เกาหลีใต้ ข้อตกลงทางการค้า

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลงการค้าแบบสมบูรณ์ โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้ไว้ที่ 15% ซึ่งต่ำกว่าระดับ 25% ที่เคยถูกขู่ไว้อย่างมีนัยสำคัญ ข้อตกลงนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความไม่แน่นอนทางการค้าและจัดระดับภาษีให้สอดคล้องกับคู่ค้ารายอื่นของสหรัฐฯ

โดยเกาหลีจะลงทุนในสหรัฐฯ รวมมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ 150 พันล้านดอลลาร์ในโครงการต่อเรือ 200 พันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยี เช่น ชิปและชีวเภสัชภัณฑ์ สั่งซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ครอบคลุม LNG และพลังงานอื่น ๆ ภายในระยะเวลา 3.5 ปี เปิดตลาดให้นำเข้าสินค้าสหรัฐฯ โดยปลอดภาษีครอบคลุมรถยนต์ รถบรรทุก และสินค้าเกษตร

Source : Trump says US will set 15% tariff on South Korean imports under new deal | Reuters

US–EU Agree on 15% Tariff Deal, Calming Global Trade Tensions

🔍 สหรัฐ–ยุโร ข้อตกลงทางการค้า

มีการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป (EU) โดยปรับลดระดับภาษีนำเข้าสินค้ายุโรปลงเป็น 15% จากที่เคยถูกคุกคามสูงถึง 30% ส่งผลให้ความเสี่ยงจากสงครามการค้าผ่อนคลายทันที แม้เหล็กในข้อตกลงนี้จะยังคงถูกเก็บภาษีอยู่ที่ 50% สำหรับสหรัฐฯ ซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในการลดอัตราภาษี 15%

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ราว 0.6% หลังข้อตกลงภาษีใหม่ และช่วยลดแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการค้า

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ยังไม่เปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ยในระยะสั้น แต่นักลงทุนกำลังจับตาการประชุมเหล่านี้เพื่อหาเบาะแสทิศทางดอกเบี้ยเดือนกันยายน – ธันวาคม

ความสนใจเพิ่มเติมรวมถึง รายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ (Apple, Microsoft, Amazon) และ ตัวเลขจ้างงานสหรัฐ, ซึ่งคาดว่าจะกำหนดสถานการณ์ตลาดต่อจากนี้

Source : Angry France slams US trade pact ‘submission’ as EU peers breathe sigh of relief | Reuters

U.S. Slashes Tariffs for Developing Nations, Effective August 2025

สหรัฐฯประกาศอัตราภาษีนำเข้าต่อหลายประเทศ 10-41% เริ่มมีผล 1 สิงหาคม 2025 โดยประเทศกำลังพัฒนาและพันธมิตรทางเศรษฐกิจ เช่น ไทย เวียดนาม บังกลาเทศ และบราซิล ที่ลดลงเหลือราว 10–20% จากระดับสูงเดิมถึง 30–50% ขณะเดียวกันบางประเทศยังคงถูกเก็บภาษีในระดับเดิมหรือใกล้เคียง นอกจากนี้สหรัฐจะขยายเวลาในการเจรจาการค้ากับเม็กซิโกออกไปอีก 90 วัน

Source : Further Modifying the Reciprocal Tariff Rates – The White House

Economic Calendar 

ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าคาด โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ช่วงปลายเดือนได้มีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯต่ำคาด โดยในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก และสะท้อนถึงแรงส่งทางเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลง ขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานขยับขึ้นสู่ระดับ 4.2% จาก 4.1% ในเดือนก่อนหน้า สัญญาณการชะลอตัวของตลาดแรงงาน เพิ่มแรงกังวลต่อนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี

Source : https://th.investing.com/economic-calendar/

Magnificent 7 And Ex-Mag7 Earnings Forecast

ข้อมูลจาก Bloomberg Intelligence ภาพรวมผลประกอบการคาดการณ์หุ้นสหรัฐฯการเติบโตยังน่าสนใจ โดยนักวิเคราะห์มองว่ากำไรจะชะลอในช่วงปลสบปีก่อนที่จะเริ่มมีการเติบโตที่น่าสนใจในช่วงต้นปีหน้าอีกครั้ง

EARNING Q2 IN FOCUS

UnitedHealth Earning Q2

Source : UNH การคาดการณ์ — ราคาเป้าหมายสำหรับ2026 — TradingView

Meta Earning Q2

Source : META การคาดการณ์ — ราคาเป้าหมายสำหรับ2026 — TradingView

Microsoft Earning Q2

Source : MSFT การคาดการณ์ — ราคาเป้าหมายสำหรับ2026 — TradingView

Amazon Earning Q2

Source : AMZN การคาดการณ์ — ราคาเป้าหมายสำหรับ2026 — TradingView

ECB And BOJ Holds Rates Amid Economic Uncertainty

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ 2.00% ตามคาด หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตลอดช่วงปีที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 8 ครั้ง โดยให้เหตุผลว่าต้องการรอความชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโดยรวม

ECB ระบุว่ากำลังอยู่ในช่วง “wait-and-see” หรือรอดูสถานการณ์ โดยพร้อมดำเนินมาตรการเพิ่มเติมหากพบความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจหรือเงินเฟ้อ

Source : ECB rate decision as it happened: Rate unchanged at 2% as uncertainty remains over US-EU trade deal | Reuters

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0.5% ในการประชุมวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน

ผู้ว่าการ BOJ Kazuo Ueda ระบุว่า การขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งมีโอกาสไปถึงเป้าหมาย 2% โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงระดับนั้นอย่างมั่นคงก่อน

แม้เงินเฟ้อพื้นฐานยังต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ BOJ มองในแง่ดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยเฉพาะหลังข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ที่ลดภาษีสินค้าส่งออกญี่ปุ่น แต่ก็ยังระมัดระวังความเสี่ยงจากภาษีศุลกากรและความคาดหวังเงินเฟ้อ

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 25 จุดฐาน ภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม

Source : BOJ Governor Ueda’s comments at news conference | Reuters

Fed Reassesses Bank Capital Rules And FOMC Holds Rates

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2025 เฟดได้จัดการประชุมผู้แทนจากหน่วยงานกำกับดูแลธนาคาร เจ้าหน้าที่เฟด และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เพื่อแก้ไขกฎระเบียบด้านธนาคารที่ร่างขึ้นหลังวิกฤตปี 2008 โดยเน้นการปรับปรุง requirement ด้านทุน (capital requirements) ให้มีประสิทธิภาพ แต่ยังคงความมั่นคงต่อระบบการเงิน

Jerome Powell (Fed Chair) ย้ำถึงความจำเป็นของกรอบการกำกับที่แข็งแกร่ง ขณะที่ Michelle Bowman (Vice Chair for Supervision) รับบทเป็นผู้นำการผลักดันให้ทบทวนกฎเกณฑ์ด้านทุนแบบต่างๆ รวมถึงโครงการ Basel III

ธนาคารรายใหญ่ เช่น JPMorgan และ Citigroup รวมถึงนักวิเคราะห์ Mike Mayo จาก Wells Fargo ชี้ว่ากฎเกณฑ์ปัจจุบันมีความซับซ้อนและ “หนักเกินไป” จนส่งผลต่อการให้สินเชื่อและการแข่งขันในตลาด

และเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม FOMC โหวตคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%–4.50% เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน โดยมีผู้ว่าการ 2 รายที่แต่งตั้งโดยทรัมป์คัดค้านและเสนอให้ลดดอกเบี้ย

ประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในสภาพดี แต่เงินเฟ้อยังสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% จึงยังไม่เหมาะสมที่จะลดดอกเบี้ยในขณะนี้

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า Fed น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับนี้อย่างน้อยจนถึงเดือนกันยายน โดยผลสำรวจจาก Reuters พบว่าเกือบทุกคนคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงก่อนหน้านั้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดเงินตราสัญญาเริ่มคาดการณ์ว่า Fed อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนกันยายน และอาจมีการลดอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้

Source : Fed officials, banking experts discuss regulatory rewrite effort at conference  | Reuters

A rate cut may not be good news

สถิติย้อนหลังที่แสดงให้เห็นว่าการลดดอกเบี้ยเฟส 2 ทุกครั้งตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลง การลดดอกเบี้ยที่เร็วแสดงถึงสภาพเศรษฐกิจที่มีปัญหาและการตอบรับของตลาดมักจะตอบรับล่วงหน้าไปแล้ว จึงไม่แปลกที่ตลาดจะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสําคัญ

Trump sets new 10–12day deadline for Russia to end the war

ทรัมป์กำหนดเส้นตายใหม่ 10–12 วันให้รัสเซียต้องยุติสงครามยูเครน

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2025 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่ารัสเซียมีเวลา 10 ถึง 12 วัน (นับจากวันดังกล่าว) ในการแสดงความคืบหน้าเพื่อยุติสงครามกับประเทศยูเครน มิฉะนั้นสหรัฐฯ จะใช้มาตรการเพิ่มเติม ได้แก่ การขึ้นภาษี (tariffs) และมาตรการคว่ำบาตรอื่น ๆ

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยให้เส้นตาย 50 วันแก่รัสเซีย แต่ตัดสินใจเร่งดำเนินการเนื่องจากผิดหวังต่อพฤติกรรมของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน

ปฏิกิริยาของฝ่ายต่าง ๆ

ยูเครน ยินดีสนับสนุนแนวทางของทรัมป์ โดยมองว่าเป็นสัญญาณของความเด็ดขาดและความมุ่งมั่นสู่สันติภาพ

ฝ่าย รัสเซีย โดยเฉพาะ Dmitry Medvedev อดีตประธานาธิบดีและรองประธานสภาความมั่นคง มองว่า “การ ultimatum” แบบนี้อาจนำไปสู่สงครามที่อาจลุกลามมาถึงสหรัฐฯ เอง

โฆษกของ เครมลิน กล่าวว่า รัสเซียเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรมากมายแล้วและได้กลายเป็น “immune” ต่อการกดดัน จึงมองว่าเส้นตายที่ประกาศอาจเป็นเพียงคำขู่เท่านั้น

Source : Trump sets new deadline of 10 or 12 days for Russia to act on Ukraine

Bitcoin is entering a major consolidation phase

Source : http://www.barchart.com/stocks/market-performance

Bitcoin กำลังอยู่เฟสฟองสบู่โดยในช่วงสั้นจากข้อมูลสถิติมีโอกาสพักตัวในช่วง ส.ค.-ก.ย. ก่อนจะปรับขึ้นได้ในช่วง พ.ย.-ธ.ค.ซึ่งสอดคล้องกับสถิติในหุ้นสหรัฐฯ นอกจากนี้ในภาพระยะยาว จากภาพสถิติเรากำลังอยู่ในช่วงปลายวัฏจักรขาขึ้นก่อนเจอการพักฐาน

กองทุนเสนอขายครั้งแรก และการจัดอันดับกองทุนพักเงิน

จัดอันดับกองทุนพักเงินประเภทกองทุนตลาดเงินและตราสารหนี้ระยะสั้น โดยเรียงลำดับตามอัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี

ติดตามบทความเพิ่มเติมได้ที่ https://wealthcertified.co.th/market-update/

Disclaimer

ข้อมูลและเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ ถูกรวบรวมขึ้นจากแหล่งที่มาที่พิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามทางบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของเอกสารฉบับนี้ รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ข้อมูลและความคิดเห็นในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ผู้ลงทุนต้องเข้าใจว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถนำเอามาใช้รับประกันผลตอบแทนในปัจจุบันและอนาคตได้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลขาดทุนจากการขาดทุนได้ จึงต้องทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานที่นำเสนอนั้น อาจไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะต้องมีการเรียกเก็บจากผู้ลงทุน เป็นต้น

เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่เอกสารเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปและไม่สามารถนำไปแก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยปราศจากความเห็นชอบและอนุญาตจากบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน เวลธ์ เซอร์ติฟายด์ จำกัด

You cannot copy content of this page